STAGEPAS 1K mkII ระบบ PA แบบพกพา

ลำโพงไลน์อะเรย์ความถี่สูงนี้ประกอบไปดด้วยลำโพงขนาดเล็ก 1.5 นิ้ว จำนวน 10 ตัว ครอบคลุมพื้นที่ใช้งานในแนวตั้งได้ถึง 30° และแนวนอนได้ถึง 170° ด้วยลำโพงไลน์อะเรย์ความถี่สูงรูปตัว J ด้วยดีไซน์ลำโพงแบบไลน์อะเรย์ที่มีความสูงและมีตัวขับถึง 10 ตัว STAEGEPAS 1K mkII จึงให้เสียงที่มีคุณภาพสูง คมชัด และต่อเนื่องในระยะไกล ตั้งแต่ผู้ฟังที่นั่งด้านหน้าไปจนถึงด้านหลังสุด

ซับวูฟเฟอร์มีขนาด 12 นิ้ว ซึ่ง “เล็กกะทัดรัด” แต่มีขนาดใหญ่ที่สุดในคลาส STAGEPAS 1K mkII โดดเด่นด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กสุดในบรรดาซับวูฟเฟอร์ขนาดและกำลังขับระดับเดียวกันในตลาด แม้ตัวลำโพงจะมีขนาดเพียง 12 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดใหญ่สุดในคลาสก็ตาม

ด้วยการใช้เทคโนโลยี Twisted Flare Port ™ ของ Yamaha เพื่อลดเสียงลมจากช่องพอร์ตที่อาจเกิดขึ้นกับซับวูฟเฟอร์แบบสะท้อนเสียงเบสขนาดเล็กกะทัดรัด เอาต์พุตของเสียงย่าน Low End จึงมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้ได้เสียงเบสที่ลึกและทรงพลังโดยไม่มีการบิดเบือน

นอกจากนี้ ด้วยการเป็นที่หนึ่งในคลาสในด้านกำลังขับ โมดูลแอมปลิฟลายเออร์คลาส D กำลังขับ 1,100 วัตต์ จึงสามารถเอาต์พุตเสียงที่มีระดับค่า SPL สูงถึง 125 เดซิเบล ออกจากลำโพงขนาดเล็กกะทัดรัด และที่สำคัญ เราได้ยกระดับประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของ Yamaha ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ระบบเสียงระดับมืออาชีพและในฐานะผู้คิดค้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่าพลังเสียงที่ทรงพลังนั้นต้องมีความเสถียร และเพื่อให้แน่ใจว่า STAGEPAS 1K mkII จะรักษาคุณภาพเสียงได้อย่างถูกต้องให้มีกำลังขับสูง

ด้วยความยืดหยุ่นที่โดดเด่นสำหรับระบบ PA ที่มีขนาดเท่านี้ มิกเซอร์ดิจิตอลแบบ 5 ช่อง จะมี 3 ช่อง เป็นโมโนไมโครโฟน/แถวอินพุตและสเตอริโออินพุต และมี 2 ช่องสัญญาณโมโนอินพุตที่เชื่อมต่อกับ Hi-Z เพื่อรับสัญญาณเสียงของกีตาร์อะคูสติก-ไฟฟ้าและเครื่องดนตรีอื่นๆ โดยตรง นอกเหนือจากแจ็คของโทรศัพท์และแจ็คขนาดเล็ก 1/8 นิ้ว การเชื่อมต่อสเตอริโอยังรองรับการเล่นกับอุปกรณ์บลูทูธและแหล่งสัญญาณอินพุตต่างๆ มากมาย ตั้งแต่เครื่องดนตรีไปจนถึงเครื่องเล่นซีดี คอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน

STAGEPAS 1K mkII มีฟังก์ชันปรับแต่งเสียงมากมาย เช่น 1-knob EQ สำหรับตั้งค่า EQ แบบหลายช่วงความถี่และ Reverb SPX ระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างเหมาะสม และมี “โหมด” สำหรับปรับตั้งค่าการบีบอัด เช่น “โหมด Speech” หรือ “โหมด Music” เพื่อให้เหมาะกับแอปพลิเคชันต่างๆ แต่ละฟังก์ชันเหล่านี้สามารถปรับตั้งค่าได้ด้วยปุ่มหมุนเพียงปุ่มเดียว และทำให้การใช้งานที่ยุ่งยาก เช่น EQ และการบีบอัด ง่ายขึ้นอย่างมากเพื่อให้ได้เสียงที่ยอดเยี่ยมอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมการเปิด/ปิดโดยใช้ฟุตสวิตช์ FC5 ที่เป็นอุปกรณ์เสริมได้

1. Reverb ดิจิตอลมาตรฐาน SPX

เพียงใช้งานปุ่มนี้ปุ่มเดียว คุณก็สามารถเข้าถึงการตั้งค่า Reverb SPX ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Yamaha ทั้งสี่แบบได้ ซึ่งเหมาะสำหรับเสียงร้องและเสียงเครื่องดนตรีอะคูสติก เพียงหมุนปุ่มนี้เพื่อเปลี่ยนประเภทและเวลาของ Reverb และคุณจะพร้อมใช้เอฟเฟกต์ความละเอียดสูงในแต่ละช่องสัญญาณในปริมาณที่เหมาะสม

2. 1-knob channel EQ

ไม่ว่าจะหันไปทางด้านซ้ายเพื่อตัดเสียงย่าน Low End ที่ไม่จำเป็นสำหรับเสียงพูด หรือจะหันไปทางด้านขวาเพื่อเน้นเสียงย่าน Bottom End และ High End สำหรับการแสดงวงดนตรี อีควอไลเซอร์สุดล้ำสมัยนี้จะสามารถปรับตั้งเสียงที่สมบูรณ์แบบได้ด้วยการใช้ปุ่มหมุนเพียงปุ่มเดียว

3. “โหมด” สำหรับปรับตั้งค่าเอาต์พุตหลัก

คอมเพรสเซอร์แบบหลายช่วงความถี่จะปรับการตั้งค่าการบีบอัดที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้เหมาะกับแอปพลิเคชันต่างๆ มากมาย ด้วยการเลือกโหมด MUSIC, SPEECH หรือ CLUB ที่ใกล้เคียงกับแอปพลิเคชันของคุณที่สุด คุณจะสามารถเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับเสียงดนตรีของคุณได้โดยไม่ต้องเรียนรู้หลักการบีบอัด/วิศวกรรมเสียงที่ยุ่งยากซับซ้อน

STAGEPAS 1K mkII โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน “Priority Ducker” ซึ่งสามารถควบคุมได้จากแอปพลิเคชัน STAGEPAS Controller และยังสามารถเปิด/ปิดจากอุปกรณ์ได้โดยตรง

ระบบ Priority Ducker เป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานที่ต้องมีทั้งการพูดในที่สาธารณะและเปิดเพลงประกอบ ระบบนี้จะช่วยปรับให้เสียงของไมโครโฟนดังกว่าเสียงจากแหล่งสัญญาณอื่นโดยอัตโนมัติเพียงแค่พูดใส่ไมโครโฟน เมื่อหยุดพูด เสียงจากแหล่งสัญญาณอื่นจะกลับสู่ระดับปกติ จึงไม่จำเป็นต้องมีผู้ควบคุมคอนโซลสำหรับฟังก์ชันที่ง่ายแต่ยอดเยี่ยมนี้ คุณสามารถปรับลด Ducker ของแหล่งสัญญาณเสียงตามความต้องการของคุณได้

STAGEPAS Controller เป็นแอปพลิเคชันรีโมทคอนโทรลสำหรับ STAGEPAS 1K mkII โดยเฉพาะ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับระดับเสียงและ 1-knob EQ หรือ 4-band PEQ ผ่าน Bluetooth ในระหว่างซ้อมหรือทำการแสดงได้ด้วยอินเตอร์เฟซที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด และคุณยังสามารถบันทึกการตั้งค่าที่ปรับตั้งแล้วสำหรับบางเพลงหรือบางแอปพลิเคชันเพื่อลดขั้นตอนการตั้งค่าของคุณในอนาคต และเพื่อรักษาความต่อเนื่องจากการแสดงหนึ่งไปยังการแสดงถัดไป รวมถึงยังสามารถควบคุมระดับเสียงของเครื่อง STAGEPAS 1K mkII หลายเครื่องได้จากแอปพลิเคชันอีกด้วย

เพียงติดตั้งสเปเซอร์ 2 ตัวและชุดลำโพงเข้าไปในซับวูฟเฟอร์ และเพียงเท่านี้การติดตั้งก็เสร็จสมบูรณ์ โดยไม่ต้องใช้สายเคเบิล ขาตั้งลำโพง หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ นอกเหนือจากชุดอุปกรณ์หลัก มีทั้งหมดที่คุณต้องการ

ตัวโครงสร้าง ABS น้ำหนักเบาของซับวูฟเฟอร์จะได้รับการเคลือบด้วยโพลียูเรียคุณภาพสูงเพื่อป้องกันการสึกหรอการชำรุดในระหว่างเคลื่อนย้าย โดยมีน้ำหนักเบามากพอที่จะทำให้สามารถพกพาได้อย่างสะดวก แต่ก็มีความทนทานและสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้มากพอที่จะทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง

การเชื่อมต่อ STAGEPAS 1K mkII หรือ STAGEPAS 1K mkII สองตัวเข้ากับ DXL1K จะครอบคลุมพื้นที่ใช้งานกว้างขึ้นและเพิ่มกำลังขับให้สูงขึ้นสำหรับการแสดงในสเกลที่ใหญ่ขึ้น รองรับทั้งการเล่นแบบสเตอริโอและโมโน และหากตั้งค่าเป็นโมโน คุณจะยังคงสามารถใช้งานอินพุตของเครื่องทั้งสองที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน(*) ได้

* STAGEPAS 1K mkII สองตัว: โมโน 6 ช่อง และสเตอริโอสองช่อง

* STAGEPAS 1K mkII และ DXL1K อย่างละหนึ่งตัว: โมโน 5 ช่อง และสเตอริโอ 1 ช่อง

STAGEPAS 1K mkII มาพร้อมกับฝาครอบเฉพาะตัว ซึ่งนอกจากจะให้การปกป้องตัวเครื่องแล้ว ยังมีช่องสำหรับใส่สเปเซอร์และลำโพงไลน์อะเรย์ รวมถึงยังเพิ่มช่องเก็บอุปกรณ์เสริมเพื่อการติดตั้งและการถอดประกอบระบบสตรีมมิ่งต่อไปอีกด้วย

ดอลลี่เสริมแบบเฉพาะจะช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักแสดงที่ต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และเครื่องมือเพิ่มเติม ด้วยกลไกที่เรียบง่ายและทนทานซึ่งจะล็อคฝาครอบลำโพง ดอลลี่น้ำหนักเบานี้จะช่วยให้การเคลื่อนย้ายราบรื่นและไว้วางใจได้