ประวัติความเป็นมาของ STAGEPAS Series

ประวัติศาสตร์เริ่มต้นขึ้นที่นี่ ด้วยการผสมผสานมิกเซอร์ที่สามารถถอดแยกออกจากตัวลำโพงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการในยุคนั้น STAGEPAS เจเนอเรชันแรกได้ยึดหลักแนวคิด “ติดตั้งและเล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา”

ลำโพงขนาดกะทัดรัดสองตัวและมิกเซอร์ 8 ช่องสัญญาณแบบถอดแยกได้ เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสด อีเวนท์ และการประชุม ฯลฯ ด้วยคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม การติดตั้งที่ง่ายดาย และการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ STAGEPAS ได้รับการยอมรับและการสนับสนุนในวงกว้าง ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นใช้งาน PA ไปจนถึงระดับมืออาชีพ และผู้ใช้จำนวนมากก็ยังคงนึกถึงผลิตภัณฑ์รุ่นนี้เมื่อนึกถึง STAGEPAS

เพื่อเข้าถึงผู้ฟังในวงกว้างยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่มีกำลังขับสูงแบบแยกส่วนนี้จึงมาพร้อมลำโพงที่มีขนาดใหญ่กว่า STAGEPAS 300 อีกทั้งยังมาพร้อมเอฟเฟกต์ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเสียงไปอีกขั้น

โดยเป็นการผสมผสานความสามารถในการพกพาที่ยอดเยี่ยมเข้ากับกำลังขับอันทรงพลังถึง 500 วัตต์ได้อย่างลงตัว ผลิตภัณฑ์นี้อยู่ในรูปแบบออลอินวันที่ไม่มีใครเทียบได้ในเวลานั้น ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนา STAGEPAS ไปอีกขั้น เมื่อใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์รุ่นแรก STAGEPAS จึงได้กำหนดคำนิยามและเป็นแบบอย่างของแนวคิดระบบ PA แบบพกพาได้ของยามาฮ่า

เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงโซลูชัน STAGEPAS ที่ปรับแต่งได้ได้มากยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ STAGEPAS 300/500 รุ่นโมโนนี้จึงมุ่งเป้าไปที่นักดนตรีเดี่ยวที่อาจไม่จำเป็นต้องใช้ระบบสเตอริโอแบบเต็มรูปแบบ

ช่วยให้สามารถถ่ายทอดอารมณ์เพลงไปยังผู้ชมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และนักดนตรียังสามารถมอนิเตอร์การแสดงของตนเองได้อย่างยอดเยี่ยมในเวลาเดียวกัน STAGEPAS 150M และ 250M เป็นผลิตภัณฑ์สองรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกันและสร้างความโดดเด่นเพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ

เรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ STAGEPAS อย่างไม่หยุดยั้ง ผลิตภัณฑ์รุ่นที่สองนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อดิจิตอลกับ iPod/iPhone รวมถึงฟังก์ชัน Feedback Suppressor และ Master EQ™ 1 ปุ่มเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น ในปีค.ศ. 2018 ได้มีการปรับโฉมเป็น STAGEPAS 600BT/400BT ที่รองรับการใช้งาน Bluetooth® และได้ยุติการผลิตลงในปีดังกล่าว กว่า 10 ปีหลังจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ผู้ใช้งานจำนวนมากก็ยังคงไว้วางใจใช้งานผลิตภัณฑ์นี้อย่างต่อเนื่อง

STAGEPAS 600i/400i ได้รับการอัปเกรดเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งาน Bluetooth® และผลิตภัณฑ์รุ่นที่ถอดแยกชิ้นส่วนได้ในปัจจุบันก็ได้กลายเป็นมาตรฐานของเครื่องเสียง PA แบบพกพาไปแล้ว

เมื่อคิดรวมกับผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้าอย่าง 600i/400i ยอดขายคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของยอดจัดส่งทั้งหมดของ STAGEPAS Series ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ STAGEPAS ในตลาดเครื่องเสียง PA แบบพกพาได้

ชุดลำโพงแบบคอลัมน์ที่มีรูปทรงเพรียวบางเป็นพิเศษนี้ใช้เทคโนโลยีไลน์อาร์เรย์เพื่อถ่ายทอดเสียงที่คมชัดให้กระจายไปได้กว้างและไกลยิ่งขึ้น

ด้วยการออกแบบให้มีหน้าแคบที่ไม่บดบังทัศนียภาพของผู้ชม และพลังเสียงอันทรงพลังที่เกิดจากซับวูฟเฟอร์ขนาด 12 นิ้ว ทำให้ STAGEPAS Series ขยายขอบเขตการใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่งานอีเวนท์ไปจนถึงงานปาร์ตี้ของดีเจ นอกจากนี้ ยังเป็นรุ่นแรกในซีรีส์ที่รองรับการควบคุมระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นการส่งต่อการใช้งานที่สะดวกสบายนี้ไปยังผลิตภัณฑ์รุ่นต่อไป

ด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายและมีสไตล์ STAGEPAS 1K ได้รับการพัฒนาให้ทรงพลังมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านฟังก์ชันการใช้งานและระดับเสียง

นอกเหนือจากการปรับปรุงเสียงใหม่แล้ว ผลิตภัณฑ์นี้ยังเป็นรุ่นแรกในซีรีส์ที่มีฟังก์ชัน Priority Ducker ซึ่งจะช่วยลดระดับเสียงเพลงประกอบลงโดยอัตโนมัติเมื่อมีการพูด และมีฟังก์ชัน PEQ แบบฟูลแบนด์อีกด้วย ลำโพงแบบคอลัมน์นี้สะท้อนแนวคิด “ใช้งานได้จริง เป็นมืออาชีพ ทรงพลังยิ่งขึ้น” ได้อย่างแท้จริง

STAGEPAS แบบ Single-box ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รุ่นแรกของ Yamaha มาพร้อมประสิทธิภาพเสียงที่น่าทึ่งและฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุมในตัวเครื่องขนาดกะทัดรัดรูปทรงสี่เหลี่ยมเพียง 30 ซม.

นอกเหนือจากฟังก์ชันที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์รุ่นทั่วไปแล้ว ยังมีเอฟเฟกต์ Delay และ Chorus แบบใหม่ รวมถึงตัวจำลองเสียงไมโครโฟนที่เหมาะสำหรับกีตาร์โปร่งอีกด้วย ผลิตภัณฑ์นี้มาพร้อมไดรเวอร์การบีบอัดลำโพงโคแอกเชียลประสิทธิภาพสูง ซึ่งใช้ในระบบ PA ระดับไฮเอนด์ ทำให้เป็นรุ่นที่มีฟังก์ชันการทำงานที่ครอบคลุมที่สุดในซีรีส์ ออกแบบและพัฒนาขึ้นด้วยความมุ่งมั่นของ Yamaha ที่ต้องการ “มอบประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสำหรับนักดนตรีทุกคน”

กลับคืนสู่จุดเริ่มต้นของแนวคิดในการออกแบบ STAGEPAS ซีรีส์นี้ยังมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์รุ่นที่ใช้แบตเตอรี่และมีดีไซน์แบบ Single-box ที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ

ด้วยความสามารถในการพกพาที่เหนือระดับ ฟีเจอร์ต่างๆ ที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน ประสิทธิภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม และการควบคุมที่ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับความบันเทิง รวมถึงการบรรยายในโรงเรียนและการประชุมของบริษัท ด้วยขนาดที่เล็กที่สุดและน้ำหนักที่เบาที่สุดในซีรีส์ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการโซลูชัน PA ที่มีขนาดกะทัดรัด