รุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว: รุ่นที่มีลักษณะเฉพาะจากความคิดริเริ่ม

กว่า 45 ปีนับตั้งแต่การเปิดตัว PortaSound PS-1/2/3 ในปี 1980 Yamaha เปิดตัวคีย์บอร์ดแบบพกพามาแล้วกว่า 500 รุ่น และจำหน่ายได้กว่า 60 ล้านเครื่องทั่วโลก บริษัทมีทักษะที่ยอดเยี่ยมในการอาศัยเทคโนโลยีล่าสุดกับเทรนด์และแนวคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นับไม่ถ้วน โดยมีหลายรุ่นที่โดดเด่นทรงอิทธิพลต่อโลกอย่างมาก

HandySound HS-500: สนุกกับการสร้างเสียงที่เป็นธรรมชาติ

Feature Image

หลังจากที่ PortaSound ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นแล้ว Yamaha ก็ได้เปลี่ยนเป้าหมายไปที่กลุ่มเด็กเล็ก พัฒนาการด้านการฟังมักจะเริ่มที่ช่วงอายุ 3 ไปจนถึง 12 ขวบ ในปี 1982 Yamaha จึงได้เปิดตัว HandySound HS-500 ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เด็กได้สนุกกับการเรียนรู้เสียงอย่างเป็นธรรมชาติในช่วงพัฒนาการที่สำคัญของชีวิต

คีย์บอร์ดสำหรับเด็กเล็กรุ่นที่มีอยู่เดิมนั้นมักจะมีลักษณะเหมือนของเล่น แต่สำหรับ HS-500 นั้นโดดเด่นด้วยคุณสมบัติด้านการเรียนรู้ ควบคู่ไปกับความบันเทิง อีกหนึ่งประโยชน์หลักก็คือเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถถ่ายทอดได้หลากหลายมาก

กลุ่มเป้าหมายของ HS-500 คือเด็กอายุระหว่าง 3 - 12 ขวบ ซึ่งเป็นวัยแรกที่เริ่มต้นเรียนรู้จากการฟัง ด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าว Yamaha จึงได้เพิ่มคุณสมบัติที่ชาญฉลาดมากมายลงในเครื่องรุ่นนี้เพื่อช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีในการรับรู้เสียงอย่างเป็นธรรมชาติ HS-500 มีเสียงเปียโน ออร์แกน คลาริเน็ต และเสียงอื่นๆ ที่มีความเฉพาะตัวและเสียงที่คุ้นเคยอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น เมื่อเด็กจดจำตำแหน่ง B และ G บนคีย์บอร์ดได้แล้ว ก็สามารถเลียนเสียงไซเรนรถตำรวจหรือรถพยาบาลได้โดยใช้เสียงออร์แกนในเครื่อง เครื่องรุ่นนี้ยังมีเกมที่กระตุ้นให้เด็กร้องเพลงและเล่นโน้ตตามจังหวะที่ได้ยินระหว่างที่เล่นเกม อย่างเช่น เกมซ่อนหา จากนั้น จึงพัฒนาไปสู่ระดับที่มากกว่าการกดแป้นคีย์ เป็นเกมที่ออกแบบมาเพื่อเน้นพัฒนาการทางการได้ยิน โดยให้เด็กหาแป้นคีย์ที่ถูกต้องบนคีย์บอร์ด จากนั้นจึงเล่นโน้ตและท่อนเพลงแล้วให้เด็กทายเสียงที่ได้ยิน

ในปี 1954 Yamaha ได้เปิดตัว “ห้องเรียนทดลอง” ที่ต่อมา ได้กลายเป็น Yamaha Music School และสร้างระบบการศึกษาดนตรีของ Yamaha (พื้นฐานของวิธีการในปัจจุบัน) ปัจจุบัน Yamaha Music Schools เปิดทำการอยู่ในกว่า 40 ประเทศและภูมิภาค ที่น่าสนใจคือ หลักสูตรของโรงเรียนทุกแห่งจะเหมือนกัน แทนที่จะเริ่มด้วยวิธีการที่ยาก อย่างการอ่านโน้ตเพลงเช่นวิธีการของ Beyer วิธีการของ Yamaha คือให้เด็กค่อยๆ พัฒนาการได้ยินอย่างเป็นธรรมชาติ เด็กจะได้รับประสบการณ์และสนุกไปกับดนตรีในหลากหลายรูปแบบ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของโปรแกรมคือ เวลาที่เหมาะสมกับเนื้อหา เช่น เน้นการฟังเมื่อเด็กอายุ 4 ถึง 5 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่มีพัฒนาการทางการได้ยินเต็มที่ เด็กจะจดจำชื่อโน้ตในลักษณะเดียวกับการเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ

HS-500 รวมวิธีการของ Yamaha เอาไว้ นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือการสื่อสารสำหรับพ่อแม่และเด็กในการใช้เวลาร่วมกันอย่างเพลิดเพลิน และเนื่องจากมี 25 แป้นคีย์ และหนักเพียง 550 กรัม (รวมแบตเตอรี่) จึงเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก พ่อแม่หลายคนชื่นชอบคีย์บอร์ดขนาดเล็กนี้เพราะสามารถให้เด็กเล่นและเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา

HS-500

HS-500

PortaSound PC-100: คีย์บอร์ด “MYBAND” ที่มีระบบ Playcard รูปแบบใหม่ของ Yamaha

ในเดือนตุลาคม ปี 1981 Yamaha ได้ขยายตลาดโดยการทยอยเปิดตัวรุ่น PortaTone แบบพรีเมียม (PS10/20/30) อย่างรวดเร็ว การเปิดตัวดังกล่าวทำให้ผู้ที่อยู่ในวงการรู้สึกทึ่งกับความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคของ Yamaha ด้านคีย์บอร์ดแบบพกพา ซึ่งมาพร้อมความคาดหวังจากผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มองว่าดนตรีคือส่วนหนึ่งของแฟชั่น

ในปีต่อมา Yamaha ได้เปิดตัว PortaSound PC-100 ซึ่งผู้ใช้เรียกกันติดปากว่า “MYBAND”

An advertisement from the time

การโฆษณาในยุคสมัยนั้น

คุณสมบัติใหม่ที่แท้จริงของเครื่องดนตรีนี้ก็คือความสามารถในการสร้างดนตรีประกอบตามเท็มโปของผู้เล่นได้ทุกแบบ โดยที่ไม่มีคีย์บอร์ดรุ่นใดในโลกสามารถทำได้ในปี 1982 คุณสมบัตินี้เป็นดีไซน์เชิงนวัตกรรมที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง กล่าวคือทำให้เครื่องดนตรีปรับความเร็วตามการเล่นเมโลดี้ของผู้เล่น แทนที่จะให้ผู้เล่นปรับตามเครื่องดนตรี

หัวใจหลักของคุณสมบัตินี้คือระบบ Playcard ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Yamaha ที่พัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีด้านดิจิตอลของบริษัท ระบบ Playcard ทำให้ผู้เล่นสามารถสนุกกับทุกมิติของเพลงได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่เสียบ Playcard ที่มีเทปแม่เหล็กเข้ากับตัวอ่านการ์ดของเครื่องเพื่อโหลดเมโลดี้ ดนตรีประกอบ และข้อมูลดนตรีอื่นๆ ลงในเครื่อง เครื่องนี้สามารถเล่นดนตรีประกอบตามความเร็วของเมโลดี้ที่ผู้เล่นเล่นได้อย่างน่าทึ่ง แต่ก็สามารถเล่นเพลงแบบไม่มีเมโลดี้ได้เช่นกัน โดยผู้เล่นสามารถเล่นเมโลดี้ในลักษณะของการโซโล่ หรือเล่นบรรเลงไปพร้อมกับเครื่องดนตรีเครื่องอื่นๆ ในลักษณะของวงดนตรีได้ นอกจากนี้ ยังมีไฟที่ช่วยระบุแป้นคีย์ที่จะเล่นเป็นเมโลดี้ และเดโม่พร้อมดนตรีประกอบเต็มรูปแบบ จึงสามารถใช้เป็นเครื่องคาราโอเกะหรือดนตรีประกอบได้ PortaSound PC-100 มีทุกอย่างที่คุณต้องการเพื่อที่จะเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลง เล่นดนตรี และร้องเพลง

เครื่องนี้มีฟังก์ชันที่โดดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์การค้างเสียง (Sustain) และการสั่นเสียง (Vibrato) 10 เสียง (และเสียง Obbligato อีก 8 เสียง), Fun Block 3 ชุด (Auto Rhythms, Auto Bass Chord และ Arpeggio 10 รายการ) และตัวทรานสโพสโน้ตและควบคุมพิตช์สำหรับคาราโอเกะและการเล่นเป็นวง

Playcard ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบัตร ATM ของธนาคาร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเครื่องนี้ต้องรองรับข้อมูลมากกว่า 500 เท่า จึงต้องใช้เวลาในการพัฒนาถึง 4 ปี จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ไม่ใช่การต่อยอดจากแนวคิดเดิมที่มีอยู่แล้ว

ด้วยความสามารถรอบด้านนี้ ทำให้ผู้ใช้ขนานนามคีย์บอร์ด PortaSound PC-100 ของพวกเขาว่า “MYBAND” เครื่องรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในกลุ่มคนที่ไม่เคยคิดจะเล่นดนตรีมาก่อน โดยเฉพาะกลุ่มวัยกลางคนที่ไม่มีเวลาหรือไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับดนตรีเหมือนกับที่เด็กวัยรุ่นมี

โฆษณาของ PortaSound PC-100 ได้คุณ ไจแอนท์ บาบา (Giant Baba) นักมวยปล้ำผู้ยิ่งใหญ่เจ้าของความสูง 209 ซม. ผู้ปลุกกระแสมวยปล้ำอาชีพของญี่ปุ่นในขณะนั้น ในโฆษณา เขาดีดทำนองเพลงด้วยนิ้วเดียว แล้วดนตรีประกอบก็เล่นตาม “แม้แต่ผมก็ยังเล่นได้!” เขาพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ได้เห็นนักมวยปล้ำแชมป์โลกที่มีทักษะอันยอดเยี่ยมในดินแดนห่างไกล แต่กลับชื่นชอบการเล่นดนตรี โดยสโลแกนของโฆษณาชิ้นนี้คือ “ผมสละตำแหน่งผู้เล่นดนตรียอดแย่แล้ว!”

PC-100

PC-100

PortaSound MP-1: คีย์บอร์ดแบบพกพารุ่นแรกของโลกที่มีเครื่องพิมพ์โน้ตเพลงในตัว

MP-1

Yamaha ได้จัดงานเทศกาล Yamaha Popular Song Contest (“Popcon”) ตั้งแต่ปี 1969 ถึง 1986 เพื่อให้นักดนตรีสมัครเล่นได้แสดงผลงานเพลงที่แต่งขึ้นเอง จำนวนการส่งผลงานเพลงเพิ่มขึ้นมากในแต่ละปีจนน่าตกใจ สะท้อนให้เห็นว่าคนรักดนตรีรุ่นเยาว์ที่มีความสุขกับการสร้างสรรค์บทเพลง นอกจากการฟังและเล่นดนตรีเพียงอย่างเดียวมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้ Yamaha จึงได้เปิดตัว PortaSound MP-1 ในปี 1982 คีย์บอร์ดรุ่นแรกที่มาพร้อมเครื่องพิมพ์โน้ตเพลงในตัวซึ่งสามารถแปลงโน้ตที่เล่นเป็นโน้ตเพลงได้ทันที เครื่องพิมพ์นี้เป็นเครื่องพิมพ์โน้ตเพลงความแม่นยำสูงขนาดเล็กที่สุดในโลกที่พัฒนาโดย Yamaha ให้สามารถพิมพ์โน้ตเพลงพร้อมสัญลักษณ์คอร์ดทันทีที่ผู้ใช้เล่นเมโลดี้และคอร์ด นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดเบื้องต้นของผู้เล่นที่มีทักษะระดับเริ่มต้นให้อ่านโน้ตง่ายขึ้นได้ และเปลี่ยนเมโลดี้ที่ซับซ้อนที่เล่นโดยผู้เล่นที่มีทักษะระดับกลางและระดับสูงเป็นโน้ตตัวที่ 16 ได้ ฟังก์ชันหน่วยความจำในตัวยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอินพุตเมโลดี้และคอร์ดแยกกันเพื่อสร้างโน้ตของทุกเครื่องดนตรีได้

หน่วยความจำของเครื่องสามารถจัดเก็บเมโลดี้และคอร์ดเอาไว้เล่นได้ และเพิ่มการเล่นเมโลดี้รองควบคู่ไปกับเมโลดี้หลักระหว่างการเล่นได้ เพื่อเพิ่มความลึกให้กับเพลง

PortaSound MP-1 เพิ่มความเพลิดเพลินในการเล่นคีย์บอร์ดโดยเพิ่มความสนุกในการแต่งเพลงด้วยคีย์บอร์ดลงไปด้วย ประกอบด้วยเสียง 10 รายการ ริธึม 10 รายการ และคุณสมบัติในการถ่ายทอดเสียงที่ครบครัน รวมถึงฟังก์ชัน Auto Bass Chord, Auto Arpeggio, Transposer และ Pitch Control

ปัจจุบัน PortaSound MP-1 ได้ถูกจัดแสดงในส่วน History Walk ของพิพิธภัณฑ์ Innovation Road ที่สำนักงานใหญ่ของ Yamaha ในเมืองฮามามัตสึ และถูกกำหนดเป็นนิทรรศการถาวร

MP-1

MP-1

MK-100: การสร้างเสียงเลียนแบบซินธิไซเซอร์

ในปี 1983 Yamaha ได้เปิดตัวซินธิไซเซอร์ DX7 ซึ่งเป็นรุ่นขายดีที่สุดที่ศิลปินทั่วโลกเลือกใช้ ในปีนั้น บริษัทยังได้เปิดตัว MK-100 ที่ได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับคีย์บอร์ดพกพา

MK-100 เป็นคีย์บอร์ดแบบพกพาแบบ 49 แป้นคีย์ ที่มีคุณสมบัติในสร้างเสียงต่างๆ โดยการผสานรูปแบบคลื่นเข้ากับ Envelope เข้าด้วยกันแบบเดียวกับซินธิไซเซอร์ คุณสมบัตินี้ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างเสียงของตัวเองได้อย่างอิสระนอกเหนือจากรูปแบบของริธึมและเบส

นอกเหนือจากฟังก์ชันพื้นฐานอย่าง Auto Bass Chord แล้ว ยังมีคุณสมบัติหลากหลาย เช่น Music Programmer ที่จัดเก็บคอร์ดและเมโลดี้แยกกัน และเล่นซ้ำพร้อมกันได้ นอกจากนี้ ยังมีอินเตอร์เฟสคาสเซ็ทที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตหรืออุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ โดยใช้พอร์ตอุปกรณ์เสริมในการจัดเก็บเสียงและข้อมูลการแสดงบนเทปคาสเซ็ทด้วยระบบดิจิตอล แล้วโหลดเข้าไปในตัวเครื่องหลักในภายหลังได้

MK-100 เป็นคีย์บอร์ดแบบพกพารุ่นแรกที่ใช้โปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ FM ตัวเดียวกับ DX7 วิธีการปรับแต่งเสียงแบบ FM เป็นเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์ซึ่ง Yamaha ได้รับอนุญาติจากมหาวิทยาลัย Stanford ในปี 1975 Yamaha ปรับปรุงอัลกอริทึมการคำนวณเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถถอดแบบเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด และนำวงจรรวมสเกลขนาดใหญ่ (LSIC) มาใช้ในการผลิตจำนวนมากได้สำเร็จ และจำหน่ายโปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ FM ที่ดีขึ้นซึ่งมีลักษณะเด่นคือสามารถจำลองเสียงที่มีโอเวอร์โทนซับซ้อนโดยใช้ข้อมูลเพียงเศษเสี้ยวเดียว

MK-100 ขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีของ Yamaha เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตงานเพลงจากประสิทธิภาพที่ล้ำสมัยทำให้มีความเป็นไปได้และความสนุกมากมาย

MK-100

MK-100

TYU-20/30: พาเด็กๆ เข้าสู่โลกมหัศจรรย์ของดนตรี

คีย์บอร์ดแบบพกพารุ่น TYU20/30 เปิดตัวในปี 1984 ด้วยดีไซน์และสีสันสดใส ดึงดูดใจเด็กๆ ได้ ในความเป็นจริงนั้น รุ่นสองอ็อกเทฟ 25 แป้นคีย์นี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้เป็นที่ชื่นชอบของเด็กเล็ก

TYU-20 มีบอดี้สีแดงสด พร้อมสัญลักษณ์กุญแจซอลขนาดใหญ่คู่กับโน้ตตัวเขบ็ตหนึ่งชั้นที่ออกแบบอย่างมีสไตล์ และมีพรีเซ็ตเพลง 20 เพลง ที่เลือกเท็มโปได้ นอกจากเสียงเปียโนแล้ว เครื่องนี้ยังมีเสียงมนุษย์ที่ขานชื่อโน้ตออกมา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีความเฉพาะตัวที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กอยากเรียนรู้

ในทางตรงกันข้าม TYU-30 สีฟ้าสดใส กลับมาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครันกว่า โดยมาพร้อมตลับเพลงสองตลับ แต่ละตลับมี 10 เพลง และไมโครโฟน รวมถึงมีการตั้งค่าที่หลากหลายเพื่อให้เด็กฟังเพลงแล้วเล่นตาม หรือเสียบไมโครโฟนแล้วร้องตามได้ เครื่องนี้ยังมีฟังก์ชันริธึมพร้อมตัวเลือกอย่างเช่น Waltz, Swing, Rock และ Latin และฟังก์ชันที่เล่นเสียงดนตรีประกอบวงออเคสตราและจังหวะโดยอัตโนมัติเมื่อเลือกเพลง ไฟ LED บนคีย์บอร์ดจะติดสว่างเพื่อแสดงลำดับของโน้ตที่จะต้องเล่นให้เด็กทราบ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีพอร์ต AUX OUT สำหรับเชื่อมต่อลำโพงภายนอกด้วย

แม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กมากและมีเพียง 25 แป้นคีย์ แต่คีย์บอร์ดแบบพกพาเหล่านี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการนำพาเด็กๆ เข้าสู่โลกมหัศจรรย์ของดนตรี โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

  • TYU-20

TYU-20

  • TYU-30

TYU-30

VSS-100: คีย์บอร์ดแบบพกพารุ่นแรกที่มีตัวอย่างเสียง

แม้ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 จะมีซินธิไซเซอร์อีกหลายรุ่นที่มาพร้อมตัวอย่างเสียง แต่คีย์บอร์ดแบบพกพานี้ก็มีฟังก์ชันเหล่านี้เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 1985 เมื่อ Yamaha เปิดตัวรุ่น VSS-100

การบันทึกตัวอย่างเสียงในที่นี่หมายถึงการบันทึกเสียงร้องและเสียงอื่นๆ แล้วจัดเก็บไว้ในคีย์บอร์ดเป็นแหล่งเสียง สามารถใช้เสียงทุกชนิดเป็นแหล่งเสียงของคีย์บอร์ดได้ ไม่ว่าจะเป็น เสียงมนุษย์และเสียงสัตว์ เสียงรถ และเสียงทีวี และอื่นๆ อีกมากมาย

VSS-100 สามารถบันทึกตัวอย่างเสียงได้สูงสุด 8 วินาทีผ่านไมโครโฟนหรือสายเชื่อมต่อภายนอก และสามารถเปลี่ยนพิตช์ในการเล่นได้ สามารถรวมเสียงตัวอย่างนี้เข้ากับพรีเซ็ตเสียงออร์เคสตราหรือใช้เป็นเบสสำหรับฟังก์ชัน Auto Bass Chord เพื่อสร้างดนตรีประกอบด้วยเสียงเบสจริงได้

สิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ เครื่องนี้มีราคาเพียง 45,000 เยน ในขณะที่ต้นทุนการบันทึกตัวอย่างเสียงของแต่ละรุ่นนั้นสูงกว่า 1,000,000 เยน อย่างเช่นซินธิไซเซอร์ที่มีฟังก์ชันตัวอย่างเสียงที่พบได้ทั่วไป การทำงานอย่างทุ่มเทของนักพัฒนาของ Yamaha ส่งผลให้สามารถจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้

การเปิดตัว VSS-100 ที่มีตัวอย่างเสียงเปลี่ยนความคาดหวังที่มีต่อคีย์บอร์ดแบบพกพาโดยสิ้นเชิง กลายมาเป็นโลกใหม่แห่งความสนุกที่สร้างสรรค์

VSS-100

VSS-100

SHS-10: คีย์ทาร์ (Keytar) ที่น่ารักซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อ “Sholky”

SHS-10

คีย์บอร์ดแบบพกพาของ Yamaha มีจุดเริ่มต้นมาจากความพยายามในการสร้างสรรค์คีย์บอร์ดขนาดเล็กที่สามารถพกพาไปเล่นได้ทุกที่ ทุกเวลาอย่างเช่นกีตาร์ ในปี 1987 ซึ่งเป็นปีที่ Yamaha ฉลองครบรอบ 100 ปี บริษัทได้เปิดตัวคีย์ทาร์ (Keytar) รุ่น SHS-10 ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่มาพร้อมสายสะพายไหล่เพื่อให้ถือเล่นแบบกีตาร์ได้

แม้โดยทั่วไปจะรู้จักกันในชื่อ “Keytar” (การผสมคำว่า “คีย์บอร์ด” กับ “กีตาร์” เข้าด้วยกัน) แต่ในประเทศญี่ปุ่น เครื่องดนตรีชนิดนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “คีย์บอร์ดแบบสะพายไหล่” จนในที่สุดก็มีชื่อเล่นแสนน่ารักว่า “Sholky” ไม่ว่าจะชื่ออะไรก็ตาม คีย์ทาร์นี้เป็นที่รู้จักในทศวรรษที่ 1980 เนื่องจากศิลปินชื่อดังในยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้นำเครื่องนี้ไปเล่น

ตัวเครื่องรุ่น SHS-10 มีความเพรียวบางเพื่อความคล่องตัวในการเล่น และมีให้เลือกสองสี คือสีแดงและสีเงินเมทัลลิก ซึ่งให้ภาพลักษณ์ที่สวยงามบนเวทีทั้งคู่ เครื่องนี้มี 32 แป้นคีย์ มีขนาดกะทัดรัด และหนักเพียง 1.1 กก. แต่มีเสียง FM ถึง 25 เสียง ทั้ง Synthesizer, Piano, Steel Drum และ Harmonica, ริธึมแพทเทิร์นที่เร้าใจ 25 รายการ ทั้ง Rock, Jazz, Reggae และ Country, ลำโพงในตัว และช่องต่อเอาท์พุต MIDI SHS-10 ได้รับการออกแบบมาสำหรับการทำเพลงแบบจริงจังในทุกมิติ

ผู้ใช้ยังชื่นชอบความสามารถในการโหลดคอร์ดซีเควนเซอร์ประกอบไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เหลือเพียงเมโลดี้ที่จะเล่น ทำให้ผู้เล่นระดับเริ่มต้นสามารถสัมผัสประสบการณ์ความสนุกได้อย่างง่ายดาย ผู้เล่นที่มีทักษะระดับสูงจำนวนมากรู้สึกชื่นชอบเช่นกัน เนื่องจากโหมดดนตรีประกอบและความโค้งของพิตช์ และเอฟเฟกต์อื่นๆ ทำให้ผู้เล่นสามารถลองใช้เทคนิคทั้งหมดได้อย่างเต็มที่

ในอดีต ผู้เล่นคีย์บอร์ดไม่สามารถเคลื่อนไหวบนเวทีได้อย่างอิสระและทำการแสดงได้อย่างน่าประทับใจแบบที่นักร้องและมือกีตาร์ทำได้ SHS-10 จึงออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวและยังสามารถนำไปเล่นเป็นกลุ่มหรือฝึกเล่นเดี่ยวๆ อย่างเพลิดเพลินอยู่ที่บ้านได้ โดยสรุปแล้ว ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับการเล่นดนตรีนี้ได้หลากหลายวิธี ด้วยฟังก์ชันมากมายที่ให้มา ในราคาที่จับต้องได้เพียง 23,800 เยน ก็ยิ่งทำให้ผู้ใช้รู้สึกพึงพอใจและประทับใจอีกด้วย

โฆษณาของรุ่น SHS-10 ได้รับเกียรติจากคุณ Yuki Matsushita นักแสดงที่มีชื่อเสียงจากรายการทีวีที่ยอดนิยม ภาพที่เธอเต้นรำอยู่บนท้องถนนพร้อมกับเล่น Sholky ไปด้วย ถ่ายทอดภาพลักษณ์ที่สดใสของสไตล์การเล่นดนตรีรูปแบบใหม่ ความสัมพันธ์กับเครื่องดนตรีที่แปลกใหม่นี้สามารถสะกดใจผู้คนได้อยู่หมัด ชื่อของคีย์ทาร์ Sonogenic ซีรีส์ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และความรักที่มีต่อเครื่องนี้ก็ยาวนานมาจนถึงปัจจุบันนี้

SHS-10

SHS-10

PSS-102/104: มิวสิคการ์ดมีฟังก์ชันที่แตกต่างมากมาย

PSS-102 และ PSS-104 ที่เปิดตัวในปี 1991 ถือเป็นรุ่นใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์คีย์บอร์ดแบบพกพาสำหรับเด็กของ Yamaha แป้นคีย์ในรุ่นเหล่านี้ได้พัฒนากลายมาเป็นมิวสิคการ์ด ผู้เล่นสามารถใส่การ์ดลงในแผงควบคุมบนตัวเครื่องหลัก จากนั้น เครื่องจะอ่านบาร์โค้ดที่ด้านหลังของการ์ดเพื่อให้ผู้เล่นสามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้

ชุดการ์ด 30 ใบ ในรุ่น PSS-102 และ 60 ใบ ในรุ่น PSS-104 เป็นการ์ดที่ประกอบด้วยเสียง, ริธึมสไตล์, เพลง, Karaoke Contest, เพอร์คัสชัน และเกม PSS-104 ยังมาพร้อมซินธิไซเซอร์การ์ดที่มีพารามิเตอร์ 6 รายการสำหรับใช้สร้างเสียง การ์ดบทเรียนคอร์ดสำหรับการเรียนรู้คอร์ดและอื่นๆ อีกมากมาย

การ์ดแต่ละแบบจะให้ประสบการณ์ทางดนตรีที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถเลือกและเล่นเสียงที่ชื่นชอบได้โดยการใส่การ์ดเสียง 1 ใน 8 ใบที่มีเสียง 32 เสียงเข้าไปใน PSS-102 หรือการ์ดเสียง 9 ใบที่มีเสียง 74 เสียงเข้าไปใน PSS-104 เสียงที่มีให้ค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่เสียงเปียโน ออร์แกน และเครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ด ไปจนถึงเครื่องสาย เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลม และแม้แต่เสียงเฮลิคอปเตอร์ เมื่อใส่การ์ด Karaoke Contest อินโทรเพลงจะเริ่มขึ้น ตามด้วยดนตรีประกอบ ผู้ใช้ที่ร้องหรือเล่นโน้ตได้ถูกต้องถูกจังหวะ จะได้รับรางวัลเป็น “Perfect Score Fanfare” คีย์บอร์ดนี้ยังมาพร้อมกับไมโครโฟนที่ถอดแยกได้

การ์ดเกม (Game) ประกอบด้วยเกมทายโน้ตและเกมสนุกๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ PSS-104 ยังมาพร้อมควิซการ์ด (Quiz) ที่ให้ผู้ใช้ทายเสียงดนตรีคลาสสิกและเครื่องดนตรีจากทั่วโลก รุ่นนี้ได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นคีย์บอร์ดที่มีความสามารถรอบด้านที่นำพาเด็กเข้าสู่โลกของดนตรี ให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้เกี่ยวกับเสียง

  • PSS-102

PSS-102

  • PSS-104

PSS-104

PSR-D1 DJX/DJX-II/DJX-IIB: DJing กับคีย์บอร์ดแบบพกพา?!

DJing ได้รับความนิยมในยุคดิสโก้ช่วงทศวรรษ 1970 เดิมที DJ ทำหน้าที่เสริมทัพในการเลือกและเล่นเพลงที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความเร้าใจให้กับฟลอร์เต้นรำเป็นหลัก (แต่มักไม่ได้รับการชื่นชม) เมื่อดนตรีสไตล์เทคโนและเฮาส์เริ่มเป็นที่นิยม DJ จึงเริ่มมีบทบาทในวงการดนตรี ในทศวรรษ 2000 ดนตรีแนวแดนซ์อิเล็กทรอนิกส์ (EDM) เริ่มเป็นที่นิยม และทำให้ DJ หลายคนมีชื่อเสียงระดับโลก

คีย์บอร์ดดิจิตอลแบบออลอินวันรุ่น DJX PSR-D1 ที่ใช้งานง่ายซึ่งเปิดตัวในปี 1998 ช่วยให้ผู้เล่นเพลิดเพลินกับการเล่นเพลงแดนซ์และให้ความรู้สึกเหมือน DJ ในคลับ

เครื่องรุ่นใหม่นี้มาพร้อมริธึมสไตล์ 100 แบบ ที่สร้างขึ้นมาเฉพาะสำหรับเพลงแดนซ์ รวมถึงเอฟเฟกต์เสียงและเสียงดนตรีที่จำเป็นสำหรับการแสดงของ DJ 283 แบบ สิ่งที่ผู้ใช้ต้องทำก็คือเลือกจังหวะและหมุนปุ่มหรือกดสวิตช์เพื่อควบคุมความใสของเสียงหรือเร่งเบสตามดนตรีที่เล่น

DJX PSR-D1 ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Sampling สำหรับสร้างเอฟเฟกต์เสียงจากเสียงที่ผู้ใช้บันทึกไว้ และฟังก์ชัน Turntable ที่ใช้เพียงปลายนิ้วในการจำลองเทคนิคทั่วไปของ DJing อย่างเช่น การเปลี่ยนความเร็วในการเล่นเสียงที่บันทึกเพื่อปรับเปลี่ยนคุณภาพและโทนเสียง หลายคนให้ความสนใจเครื่องรุ่นนี้เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่แม้แต่ผู้เล่นระดับเริ่มต้นก็สามารถสัมผัสความรู้สึกของการเป็น DJ ได้ ด้วยลำโพงระบบสเตอริโออันทรงพลังที่สามารถจำลองเสียงเบสที่กระหึ่มของดนตรีแนวแดนซ์ได้ พร้อมช่องต่อ MIDI และคุณสมบัติสำคัญอื่นๆ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ DJ ที่แท้จริง

ในปี 2000 Yamaha ได้เปิดตัวเครื่องรุ่น DJX-II ที่ล้ำหน้าขึ้น เป็นรุ่นที่ไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นคีย์บอร์ดสำหรับเล่นแต่เป็นอุปกรณ์ DJ เฉพาะทางที่ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น ในปีเดียวกันนั้นเอง บริษัทก็ได้เปิดตัว DJX-IIB ที่มีลักษณะเป็นกล่องคล้ายมิกเซอร์มาพร้อมเสียงสไตล์คลับแท้ๆ และมีคุณสมบัติที่ใช้งานง่ายเหมือนการเล่นเกมเพื่อให้ทุกคนสามารถสนุกกับการเป็น DJ ได้

ในคู่มือการใช้งานเรียกเครื่องรุ่น DJX-II และ DJX-IIB ว่า “อุปกรณ์ดิจิตอลสำหรับ DJ” และระบุว่าผู้ใช้สามารถเป็น DJ ได้ “แม้ไม่มีความรู้เรื่องโน้ต คอร์ด หรือทฤษฎีดนตรียากๆ” สิ่งเดียวที่ต้องมีคือ “การจับจังหวะ” ซึ่งสามารถฝึกฝนผ่านการใช้เครื่องได้

DJX ซีรีส์ นำเสนอวิธีการใหม่โดยสิ้นเชิงในการมีส่วนร่วมกับดนตรีและกลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทุกคนที่มีความฝันที่จะเล่นดนตรีที่ยอดเยี่ยม สร้างเสียงสไตล์คลับ เพลิดเพลินกับประสบการณ์การเป็น DJ จนอาจกลายมาเป็น DJ ตัวจริงในสักวันหนึ่ง

คีย์บอร์ดแบบพกพาของ Yamaha เป็นผลลัพธ์ของการผสมผสานนวัตกรรมเข้ากับความสร้างสรรค์ คีย์บอร์ดเหล่านี้เป็นมากกว่าเครื่องดนตรี แต่เป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ สู่การแสดงออกทางดนตรี แต่ละรุ่นล้วนมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของยุคนั้น และเต็มไปด้วยความหลงใหลในดนตรี

แน่นอนว่า การเดินทางของการค้นหานวัตกรรมที่สนุกสนานของ Yamaha จะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ทางดนตรีให้กับผู้คน

  • PSR-D1 DJX

PSR-D1 DJX

  • DJX-II

DJX-II

  • DJXIIB

DJXIIB