คีย์บอร์ดระดับเริ่มต้น: เพิ่มจำนวนคนเล่นดนตรี

การเปิดตัว Yamaha PortaSound PS-1/2/3 Ushers ในยุคของการเล่นดนตรีกลางแจ้ง

  • Electone D-1

Electone D-1

Yamaha เปิดตัวอิเล็กโทนรุ่นแรก นั่นคือ D-1 ในปี 1959 นับเป็นออร์แกนไฟฟ้าทรานซิสเตอร์ล้วนรุ่นแรกของโลกที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ตามทันและแซงหน้าผู้ผลิตจากยุโรปและอเมริกาที่เป็นผู้นำในด้านนี้ ภายในปี 1970 อิเล็กโทน ซึ่งมาจากการผสมคำว่า “อิเล็กทรอนิกส์” กับ “โทน” เข้าด้วยกัน ได้กลายเป็นชื่อที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแทบทุกครัวเรือนอย่างแท้จริง

ในช่วงเวลาดังกล่าว กรรมการผู้จัดการและวิศวกรของ Yamaha ได้พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาถึงความเป็นไปได้ของการสร้างสรรค์คีย์บอร์ดขนาดเล็กให้สามารถพกพาได้เหมือนกับไวโอลินหรือกีตาร์เพื่อให้ผู้คนสามารถนำไปเล่นได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ

พวกเขาลงมือทำตามแนวคิดดังกล่าวนี้และสร้างต้นแบบขึ้น แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในขณะนั้น ทำให้ต้นแบบที่ได้มีน้ำหนักมากซึ่งห่างไกลจากคำว่าพกพาได้ ทำให้แนวคิดแห่งการปฏิวัติที่พวกเขาหวังไว้นี้ต้องหยุดชะงักไป

แปดปีต่อมา ในปี 1978 วิศวกรของ Yamaha ได้ลองทำสิ่งที่ท้าทายอีกครั้งด้วยการพัฒนาคีย์บอร์ดพกพาขนาดเล็ก การพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ทำให้บริษัทสามารถเปลี่ยนจากทรานซิสเตอร์เป็นวงจรรวมสเกลขนาดใหญ่ (LSIC) สำหรับอิเล็กโทนและรวมฟังก์ชันที่หลากหลายไว้ในอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กลงได้ ทำให้การพัฒนาคีย์บอร์ดขนาดพกพาในขั้นตอนต่อไปมีแนวโน้มง่ายขึ้น วิศวกรมีเป้าหมายที่ชัดเจน: การเพิ่มจำนวนผู้เล่นดนตรี

ต้นปีนั้นเอง พวกเขาได้เปิดตัวอิเล็กโทน C ซีรีส์ ในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก และกลายมาเป็นอิเล็กโทนที่ขายดีที่สุดตลอดกาล เครื่องรุ่นใหม่นี้มีการติดตั้งระบบ Pulse Analog Synthesis System (PASS) ใหม่ของ Yamaha ซึ่งเป็นโปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบผสมสัญญาณอนาล็อกกับดิจิตอล บริษัทใช้เทคโนโลยี PASS ในการพัฒนาวงจร LSI แบบใหม่ที่ประกอบด้วยรหัสพื้นฐานสำหรับประมวลผลเสียง เสียงริธึมอัตโนมัติ และโปรแกรมการปรับแต่งเสียงสำหรับวงออร์เคสตร้าและเสียงอื่นๆ

ความมุ่งมั่นในการพัฒนาก็ได้ดำเนินการต่อไปอย่างรวดเร็วด้วยจุดแข็งของเทคโนโลยีดิจิตอลที่ล้ำหน้าของ Yamaha ซึ่งเป็นที่มาของความคิดริเริ่มนี้ จนในที่สุด คีย์บอร์ดดิจิตอลแบบพกพารุ่นใหม่ที่รอคอยมาอย่างยาวนานก็ได้สิ้นสุดลงในปี 1979 ชื่อ “PortaSound” ได้รับการเปิดตัวที่งาน NAMM ในชิคาโก และเครื่องทั้งสามรุ่น (PS-1/2/3) มีการเปิดตัวในเดือนธันวาคม ปี 1980

  • PS-1

PS-1

Casio ตัดหน้า Yamaha ด้วยการเปิดตัวคีย์บอร์ดแบบพกพารุ่นแรกในเดือนมกราคมของปีนั้น และการแข่งขันระหว่างผู้นำสองรายในอุตสาหกรรมดนตรีดิจิตอลก็เริ่มขึ้น

ในช่วงเวลานั้น Yamaha โฟกัสกับการลดน้ำหนักและต้นทุนให้ได้มากที่สุด ขณะนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีการขึ้นรูปพลาสติกแบบบูรณาการ วิศวกรของ Yamaha จึงได้นำชุดโมเดลพลาสติกจำนวนมากมาศึกษา

PortaSound เป็นคีย์บอร์ดขนาดเล็กที่มีแป้นคีย์ขนาดเล็กจำนวน 32 (PS-1), 37 (PS-2) หรือ 44 (PS-3) คีย์, สี่เสียง (Organ, Strings, Clarinet และ Piano) และโพลีโฟนี 8 โน้ต (นั่นหมายถึงสามารถเล่นได้แปดโน้ตพร้อมกัน) เครื่องดนตรีนี้เล่นริธึมแพทเทิร์นได้สี่แบบ (Waltz, Swing, Rock และ Latin) และในรุ่นไฮเอนด์จะมี Auto Bass Chord ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่โดดเด่นโดยสามารถเล่นดนตรีประกอบอัตโนมัติ (คอร์ดและโน้ตเสียงเบสตามริธึม) ตามอินพุตของผู้เล่น แม้กระทั่งโน้ตเดี่ยวๆ!!

Feature Image

คุณสมบัติเหล่านี้และขนาดที่กะทัดรัดของเครื่อง น้ำหนักที่เบา และความสะดวก (ทำงานโดยอาศัยแบตเตอรี่และสามารถเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่รถยนต์ได้ด้วย) ทำให้คีย์บอร์ดนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งปีหลังจากเปิดตัว Yamaha ต้องเร่งผลิตเครื่องนี้ถึง 60,000 เครื่องต่อวันเพื่อให้ทันต่อความต้องการ โดยครึ่งหนึ่งได้ถูกส่งออกไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกา

หน้าปกของคู่มือการใช้งานภาษาอังกฤษมีการออกแบบตัวอักษรที่สะกดเป็นคำว่า “guide” ในภาษาอังกฤษ, เยอรมัน, ฝรั่งเศส และสเปน และมีรูปหนุ่มสาวที่มีใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมถือคีย์บอร์ด PortaSound อยู่ในมือ คีย์บอร์ดแบบพกพาของ Yamaha ได้รับการตอบรับที่ดีในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และต่อมาจึงแพร่หลายไปยังส่วนอื่นๆ ของเอเชีย

นอกจากนี้ ในปี 1979 ยังมีการเปิดตัว Walkman เครื่องเล่นคาสเซ็ตระบบสเตอริโอรุ่นแรกของ Sony ผลิตภัณฑ์ยอดฮิตนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งยุคใหม่ของการพกพาดนตรีออกไปนอกบ้าน

ต่อมา Yamaha ได้มีการเปิดตัว PortaTone รุ่น PS-10/20/30 ที่ล้ำหน้ามากยิ่งขึ้น และยังมีคีย์บอร์ดแบบพกพารุ่นสำหรับเด็กด้วย บริษัทได้เปิดตัว Handy Sound HS-200 ซึ่งมีเกมต่างๆ เกี่ยวกับเพลงอยู่ในนั้นเพื่อให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้เกี่ยวกับเสียงและดนตรี ในปี 1981 ตามมาด้วยรุ่น HS-500 ในปีถัดไปเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้า

ดึงดูดความสนใจกลุ่มวัยกลางคนด้วยเครื่องดนตรีที่ก่อนหน้านั้นอาจยังเอื้อมไม่ถึง

ในตอนแรก PortaSound ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นหลัก แต่ในปี 1982 Yamaha ได้เปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่เพื่อนำเสนอความสนุกในการเล่นคีย์บอร์ดให้กับคนกลุ่มอื่นๆ ที่ยังไม่เคยเข้าถึงเครื่องดนตรีมาก่อน: กลุ่มวัยกลางคน โดยเครื่องดนตรีรุ่นดังกล่าวก็คือ PC-100 ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ใช้ระบบ Playcard ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Yamaha

Playcard เป็นการ์ดที่มีแถบแม่เหล็กฝังด้วยเมโลดี้ ดนตรีประกอบ และข้อมูลทางดนตรีอื่นๆ ที่สามารถอัพโหลดเข้าไปในหน่วยความจำของคีย์บอร์ดสำหรับเล่นโดยการรูดผ่านตัวอ่านการ์ด คีย์บอร์ดเพียงตัวเดียวก็เพียงพอต่อความสนุกในการฟังเพลง เล่นดนตรี และร้องเพลง ด้วยโหมด Karaoke, Melody Practice, Chord Off, Chord Practice และโหมดอื่นๆ เพียงแค่กดสวิตช์

Playcard ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบัตร ATM ของธนาคาร แต่สามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่าถึง 500 เท่า และใช้เวลาถึงสี่ปีในการพัฒนา

คุณสมบัติของระบบ Playcard ทำให้ผู้เล่นระดับเริ่มต้นสามารถพัฒนาทักษะในขณะที่ยังสนุกกับการเล่นไปด้วย ดังนั้น Playcard จึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของคีย์บอร์ดที่ใครก็สามารถเล่นได้

PC-100

PC-100

ปัจจุบัน มีคีย์บอร์ดขนาดเล็กให้เลือกซื้อหามากมายหลายรุ่นซึ่งสามารถนำไปเล่นที่ไหนก็ได้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องสำหรับเด็ก จึงสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มคนที่รักในดนตรีได้มากกว่าที่เคย และเนื่องจากคีย์บอร์ดแบบพกพานี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ จึงทำให้สามารถพกพาไปเล่นนอกบ้านได้ จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนและครอบครัวได้มากขึ้น ความคิดดั้งเดิมคือการสร้างสรรค์คีย์บอร์ดขนาดเล็กให้สามารถพกพาได้เหมือนกับไวโอลินหรือกีตาร์เพื่อให้ผู้คนสามารถนำไปเล่นได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ ในที่สุดแนวคิดนี้ก็ประสบความสำเร็จ และในทศวรรษ 1980 รูปแบบการเล่นคีย์บอร์ดก็ได้พัฒนาไปสู่รูปแบบการเล่นที่อิสระอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ใช้โปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ FM และ PCM เพื่อให้มีเสียงที่เต็มอิ่มและสมจริงมากยิ่งขึ้น

หากคีย์บอร์ดได้รับการออกแบบมาให้สามารถเล่นได้ทุกที่โดยไม่ยุ่งยาก คีย์บอร์ดนั้นจะต้องมีลำโพงในตัว ดังนั้น กระบวนการออกแบบจึงต้องเริ่มต้นจากจุดที่ตรงข้ามกับซินธิไซเซอร์รุ่นแรกๆ โดยสิ้นเชิง ซึ่งถูกพัฒนาให้สร้างเสียงเป็นหลักและไม่มีลำโพงในตัว

คีย์บอร์ดแบบพกพารุ่นแรกของ Yamaha มีลำโพงในตัวเพียงหนึ่งตัว แต่รุ่น PS-35/35S ที่เปิดตัวในปี 1983 มีลำโพงพื้นฐานสองตัว (ด้านซ้ายและขวา) เพื่อให้ผู้เล่นเพลิดเพลินกับเสียงในระบบสเตอริโอที่ทรงพลังและเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น

PS-35

PS-35

หลังจากเปิดตัวเพียงไม่กี่ปี โปรแกรมการปรับแต่งเสียงก็ได้พัฒนาไปอย่างมาก MK-100 พร้อมคุณสมบัติการสร้างเสียงที่ออกจำหน่ายในปี 1983 เป็นคีย์บอร์ดรุ่นแรกที่มีโปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ FM แทนแบบ PASS โปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ FM โดดเด่นด้วยฮาร์โมนิคที่ซับซ้อน ได้รับการพัฒนาขึ้นที่มหาวิทยาลัย Stanford และ Yamaha ได้รับอนุญาตให้ใช้ในเชิงพาณิชย์ Yamaha ใช้โปรแกรมนี้กับรุ่น DX7 ซึ่งเป็นซินธิไซเซอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกและศิลปินมากมายเลือกใช้ เสียงที่ได้จากโปรแกรมนี้มีผลอย่างมากต่อวงการดนตรีในทศวรรษ 1980

นักดนตรีแทบทุกประเภทล้วนใช้เสียงของโปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ FM ในช่วงเวลานั้น ดังนั้น ผู้คนมากมายจึงคุ้นเคยกับเสียงนี้โดยไม่รู้ตัว

นอกจากนี้ในปี 1983 นั้น Yamaha ยังได้เปิดตัวรุ่น PS-55/55S ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดรุ่นแรกที่มีโปรแกรมการปรับเสียงริธึม AWM (PCM) ที่ใช้การบันทึก (ตัวอย่าง) เสียงกลองสดแบบดิจิตอล ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ทางบริษัทได้ใช้โปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ DASS ซึ่งสามารถถ่ายทอดเสียงเครื่องดนตรีได้สมจริงอย่างมีประสิทธิภาพจากการรวมโปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ FM และ AWM เข้าด้วยกัน

  • DX7

DX7

สองซีรีส์ที่สืบทอดมาจาก PortaSound รุ่นดั้งเดิม

Feature Image

DNA ของ PortaSound PS-1/2/3 รุ่นดั้งเดิมได้ถูกส่งต่อให้กับ PSR ซีรีส์ ที่มีคีย์ขนาดปกติ 61 คีย์ และ PSS ซีรีส์ ที่มีคีย์ขนาดเล็ก

PortaTone PSR ซีรีส์ ที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลานานได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1984

PSR-50/60/70 ซึ่งออกจำหน่ายในปีต่อมา มีโปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ FM ที่ให้เสียงออร์เคสตร้าซึ่งกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกได้มากขึ้น และโปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ PCM ที่ให้โทนเสียงเต็มอิ่มและเสียงริธึมที่หลากหลาย ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน MIDI ซึ่งเป็นมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลทางดนตรีระหว่างเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แต่ละเครื่องไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตแบรนด์ใดก็ตาม นั่นหมายความว่าคุณสามารถเชื่อมต่อคีย์บอร์ดเข้ากับซินธิไซเซอร์และคอมพิวเตอร์ได้เพื่อสร้างสรรค์ดนตรีรูปแบบใหม่

PSS เป็นการสืบทอดมรดกของคีย์บอร์ด Yamaha ที่มีแป้นคีย์ขนาดเล็ก PSS-110 ที่เปิดตัวในปี 1985 เป็นคีย์บอร์ดขนาดพกพาสำหรับเด็กเล็กที่มีลูกเล่นมากมายซึ่งถูกออกแบบมาให้เด็กคุ้นเคยกับดนตรีด้วยวิธีการที่สนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องเพลงของผู้หญิง, เสียงสัตว์ และเสียงเพอร์คัสชั่น รวมไปถึงการเล่นเพลง “Twinkle, Twinkle” และเพลงสำหรับเด็กอื่นๆ โดยอัตโนมัติ กล่าวกันว่าทักษะการฟังจะพัฒนาได้ดีที่สุดในช่วงอายุ 4-5 ขวบ ในทศวรรษ 1990 สถานศึกษาก่อนวัยประถมหลายแห่งจึงได้เริ่มนำการออกกำลังกายประกอบจังหวะมาใช้ Yamaha เป็นหนึ่งในสถานศึกษาแห่งแรกที่ตระหนักถึงความสำคัญของเทรนด์นี้

PSS-150 ที่จำหน่ายในปีเดียวกันนี้มาพร้อมคุณสมบัติที่สร้างความสนุกสนานให้กับคนทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็น Auto Play, Auto Bass Chord และ Custom Drummer สำหรับบันทึกและจัดเก็บริธึมแพทเทิร์นของตัวเอง

ต่อมา PSS ซีรีส์ ได้ถูกต่อยอดออกไปเป็นรุ่นต่างๆ สำหรับใช้ในการศึกษาและรุ่นที่ใช้สำหรับการแสดงและผลิตงานเพลง

ทศวรรษ 1990: เครื่องดนตรีมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ

ในทศวรรษ 1990 คีย์บอร์ดเริ่มมีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม

PSS-102 ที่เปิดตัวในปี 1991 เป็นคีย์บอร์ดแบบพกพาที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับเด็ก ผู้เล่นใส่การ์ดลงในแผงควบคุมบนตัวเครื่องหลัก จากนั้น เครื่องจะอ่านบาร์โค้ดที่ด้านหลังของการ์ดเปิดใช้งานเพื่อให้ผู้เล่นสามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้ ชุดการ์ดประกอบด้วย การ์ดสำหรับเสียง, สไตล์ริธึม, เพลง, การประกวดคาราโอเกะ, เพอร์คัสชั่นและเกม และคีย์บอร์ดที่มีไมโครโฟนแบบถอดแยกได้ PSS-790 ที่เปิดตัวในปีเดียวกันนั้นประกอบด้วยเสียงพรีเซ็ตคุณภาพสูง 100 เสียง และริธึมแพทเทิร์น 50 รูปแบบจากโปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ AWM และช่วยให้ผู้เล่นสามารถผสมเสียงพรีเซ็ตได้อย่างอิสระถึงสี่เสียง รุ่นนี้ได้รับการขนานนามว่า “Ultimate PSS” เนื่องจากมาพร้อมดนตรีประกอบอัตโนมัติ ฟังก์ชันการประสานที่เพิ่มเอฟเฟกต์คอร์ดให้กับโน้ตเดี่ยวๆ และฟังก์ชันหน่วยความจำเพลงที่สามารถจัดเก็บเพลงได้ 8 เพลงพร้อมการบันทึกแบบ 8 แทร็ก

Children learning how to play

เด็กๆ เรียนรู้วิธีการเล่น

ในปี 1997 Yamaha ได้เปิดตัว PortaSound PSS-7 ที่มีแป้นคีย์ขนาดเล็กมากจำนวน 32 คีย์ PSS-7 เป็นเครื่องดนตรีสำหรับเด็กที่มีเสียงในตัว 100 เสียง ประกอบด้วยเสียงสัตว์ เช่น หมู สุนัข แมว และวัว และเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น รถตำรวจและวิดีโอเกม นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันคาราโอเกะ 10 เพลง และแพทเทิร์นดนตรีประกอบ 30 แบบ สำหรับเมโลดี้ทุกประเภท

  • PSS-102

PSS-102

  • PSS-7

PSS-7

ผลิตภัณฑ์นี้พิสูจน์ให้เห็นว่าคีย์บอร์ดแบบพกพาของ Yamaha เป็นมากกว่าเครื่องดนตรี เพราะสามารถเล่นเสียงจริงที่บันทึกไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงสัตว์ เสียงรถ และแม้แต่เสียงที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน ดนตรีประกอบเป็นข้อพิสูจน์ในการทำงานหนักของสมาชิกทีมงาน Yamaha ที่ทำการรวบรวมเสียงต่างๆ ตั้งแต่บนถนนในตัวเมืองไปจนถึงสวนสัตว์

ซึ่งปัจจุบัน ความสำเร็จของบทบาทเหล่านี้ได้ปรากฏออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สามรุ่น ได้แก่: PSS-F30 รุ่นมาตรฐาน (ยังไม่เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น); PSS-A50 ซึ่งเป็นเหมือนเครื่องมือการผลิตงานเพลงสองเท่าที่ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่การแสดงไปจนถึงการบันทึกเสียง และ Remie (PSS-E30) ซึ่งมีแบบทดสอบให้เด็กๆ ทายเสียง และกิจกรรมอื่นๆ ที่สามารถกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก

ในขณะเดียวกัน ได้มีการเปิดตัวรุ่น PSR620 จาก PSR ซีรีส์ ในปี 1995 ซึ่งมีการปรับปรุงให้สามารถใช้ในการแสดงได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ Split ที่ผู้เล่นสามารถใช้งานเสียงต่างๆ ในส่วนเสียงทุ้มและเสียงแหลมของคีย์บอร์ดได้ แต่คุณสมบัติที่มีความโดดเด่นสำหรับยุคนั้นจริงๆ ก็คือช่องใส่แผ่นดิสก์ขนาด 3.5 นิ้ว และช่องใส่ “ตลับเพลง” ในคีย์บอร์ด ตลับเพลงประกอบด้วยเพลง สไตล์ และการตั้งค่าที่ใช้งานในลักษณะเดียวกับเพลงพรีเซ็ต สไตล์ และการตั้งค่าที่จัดเก็บไว้ในหน่วยความจำของคีย์บอร์ด

ในทศวรรษ 1990 โปรแกรมการปรับแต่งเสียงแบบ AWM ได้รับการปรับปรุงจนถึงจุดที่สามารถจำลองเสียงต่างๆ โดยเฉพาะเสียงเปียโน ได้อย่างสมจริงพร้อมกับโพลีโฟนีที่เพียงพอ ซึ่งกลายเป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบันที่จะคาดหวังให้คีย์บอร์ดสามารถสร้างดนตรีประกอบอัตโนมัติ และผู้เล่นสามารถเล่นสองมือได้ เพื่อให้การแสดงมีความสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ในการเล่นดนตรีแบบเต็มวง นอกจากนี้ ฟังก์ชัน Touch Response แบบใหม่ทำให้ผู้เล่นสามารถควบคุมระดับเสียงที่ปล่อยออกมาได้ด้วยการกดแป้นคีย์ให้แรงขึ้นหรือเบาลง และเป็นยุคแรกๆ ที่นักดนตรีสามารถใช้คีย์บอร์ดแบบพกพาในการฝึกซ้อมอย่างจริงจังได้

เราตามเทรนด์นี้ด้วยการเปลี่ยนจากคีย์บอร์ดขนาดเล็กเป็นรุ่นมาตรฐาน 61 แป้นคีย์ที่เล่นสนุกขึ้น

ทศวรรษ 1990 ยังเป็นยุคเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวให้เกิดการผลิตในท้องถิ่นเพื่อการบริโภคในท้องถิ่น ในปี 1990 เราเริ่มผลิตคีย์บอร์ดแบบพกพาที่โรงงานของเราในมณฑลเทียนจิน ประเทศจีน ในปี 2019 เราก่อตั้งโรงงานอีกแห่งในเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย

  • Our factory in Tianjin, China

โรงงานของเราในมณฑลเทียนจิน ประเทศจีน

  • Our factory in Chennai, India

โรงงานของเราในเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย

ทศวรรษ 2000: แป้นคีย์แบบมีไฟส่องสว่างแบบใหม่ช่วยให้ผู้เริ่มต้นเล่นได้ง่ายขึ้น

ซึ่งเราจะกล่าวถึงอย่างละเอียดต่อไปในบทที่ 2 นอกจากเครื่องรุ่นเริ่มต้นและรุ่นมาตรฐานของ Yamaha จะทำให้มีจำนวนผู้เล่นดนตรีเพิ่มขึ้นแล้ว บริษัทยังได้พัฒนารุ่นไฮเอนด์ตั้งแต่ยุค 1980 อีกด้วย ในยุค 2000 ขณะที่ Tyros ซีรีส์ รุ่น PSR-2000/3000/S และผลิตภัณฑ์อื่นที่มีราคาสูงกว่าได้รับความนิยมและมีชื่อเสียง Yamaha ยังเปิดตัวคีย์บอร์ดใหม่ๆ อีกหลายรุ่นในราคาที่จับต้องได้

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ EZ ซีรีส์ ที่เปิดตัวในปี 2001 ซึ่งมีไฟติดสว่างที่แป้นคีย์เพื่อช่วยในการเรียนรู้วิธีการเล่นให้กับผู้เริ่มต้น ไฟส่องสว่างที่แป้นคีย์จะทำหน้าที่เป็นไกด์ให้กับผู้เริ่มต้นเพื่อให้เรียนรู้การอ่านโน้ตได้ง่ายขึ้น สิ่งหนึ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับคีย์บอร์ดแบบพกพาก็คือการทำให้การฝึกเล่นในช่วงแรกเป็นเรื่องง่าย ซึ่งระบบนำทางของ EZ ซีรีส์ ช่วยดึงดูดให้อยากเล่นเป็นพิเศษเนื่องจากผู้เล่นสามารถเล่นเป็นเพลงได้ง่ายๆ เพียงกดตามแป้นคีย์ที่มีไฟติดสว่าง คุณสมบัติหลักอีกหนึ่งอย่างของ EZ ซีรีส์ คือฟังก์ชันบทเรียนที่ครอบคลุมซึ่งช่วยให้ผู้เริ่มต้นพัฒนาไปถึงระดับถัดไป

EZ-J22 เป็นรุ่นที่มีความโดดเด่นในซีรีส์นี้ เนื่องจากได้รับรางวัลชนะเลิศ Good Design Award ในปี 2001 จากการออกแบบที่สดใสและทันสมัย

EZ-J22

EZ-J22

ปี 2005 มีการเปิดตัว PSR-E ซีรีส์ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์คีย์บอร์ดที่เชื่อถือได้และมีการพัฒนาต่อเนื่องมาจนปัจจุบันนี้ โดยเราก็มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนารุ่นระดับเริ่มต้นให้มีความหลากหลายทั้งด้านเสียงและคุณสมบัติ พัฒนารุ่นมาตรฐานให้สามารถใช้งานได้ตั้งแต่การแสดงเดี่ยวของผู้เล่นระดับเริ่มต้นไปจนถึงการแสดงระดับมืออาชีพ รุ่นสำหรับการแสดงที่ทรงพลังที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ทางดนตรีขั้นสูงได้ รุ่นที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการตกแต่งห้องที่แตกต่างกัน และอื่นๆ อีกมากมาย

Yamaha ได้สร้างสรรค์เปียโนดิจิตอล DGX ซีรีส์ ให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย, NP (Piaggero) ซีรีส์ ที่โดดเด่นด้วยคีย์บอร์ดทรงกล่องมาพร้อมเสียงเปียโนคุณภาพสูงและสัมผัสที่ยอดเยี่ยมซึ่งได้รับแรงบันดาลมาจากเปียโนอะคูสติก และซีรีส์อื่นๆ ที่ขายดีเนื่องจากมีฟังก์ชันใหม่ๆ ให้เลือก เพื่อตอบสนองต่อความสนใจในเปียโนที่เพิ่มมากขึ้นในทศวรรษ 2000

Yamaha ได้เปิดตัวคีย์บอร์ดรุ่น EW400 ในปี 2016 และรุ่น EW300 ในปี 2017 ซึ่งถือเป็นการสร้างรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคีย์บอร์ดรุ่น 76 แป้นคีย์ที่ให้ช่วงเสียงของโน้ตที่กว้างขึ้นกว่าในรุ่น 61 แป้นคีย์

ในช่วงทศวรรษ 2000 และหลังจากนั้น Yamaha ได้พัฒนาสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นอินเตอร์เฟสมาตรฐานสำหรับคีย์บอร์ดแบบพกพาของบริษัทเอง และมีความสมบูรณ์แบบในตัวเองในฐานะเครื่องดนตรีดิจิตอลไม่มากก็น้อย ปุ่มที่อยู่รอบๆ จอแสดงผลส่วนกลางเป็นสิ่งที่ทำให้ทราบได้ในทันทีว่านี่คือคีย์บอร์ดแบบพกพาของ Yamaha

ในขณะเดียวกัน การออกแบบของ Yamaha ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเปลี่ยนจากโทนสีดำเป็นหลักมาเป็นสีเงินที่ให้ความรู้สึกซับซ้อนและนุ่มนวลขึ้น แม้แต่รุ่นสีดำก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา โดยมีการเพิ่มโทนสีเงินเข้าไปที่แผงควบคุม

ในทศวรรษ 2000 ในขณะที่คีย์บอร์ดกำลังได้รับการพัฒนาเป็นรุ่นต่างๆ ก็เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สั่นสะเทือนอุตสาหกรรมการผลิตทุกภาคส่วน รวมทั้งผู้ผลิตเครื่องดนตรีด้วย นั่นคือวิกฤติการเงินทั่วโลกในปี 2008

ซึ่ง Yamaha เองก็ได้รับผลกระทบจากเชิงลบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ ด้วยอนาคตที่ไม่สามารถคาดเดาได้ดังกล่าว จึงเป็นเวลาที่จะต้องตั้งสติและรอให้เศรษฐกิจและยอดขายฟื้นตัว

การนำความสนุกสนานของดนตรีมาสู่ผู้คนทุกระดับ

คีย์บอร์ดแบบพกพาของ Yamaha ได้รับการพัฒนาไปอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับจากช่วงเวลาที่เริ่มเปิดตัวในปี 1980 ซึ่งมีเสียงเพียงสี่เสียงและริธึมแพทเทิร์นสี่แบบ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว รุ่นมาตรฐานใหม่ PSR-E383 ที่จำหน่ายในปี 2024 มี 650 เสียง (รวมเสียงเปียโนแกรนด์) และดนตรีประกอบอัตโนมัติ 260 รายการ คีย์บอร์ด PSR-E383 มีฟังก์ชัน Super Articulation Lite 12 เสียง ที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีเยี่ยมและละเอียดทำให้คุณสามารถเล่นเสียงของเครื่องดนตรีได้ทุกเครื่องที่ถูกจำลองมา, เอฟเฟกต์ DSP 41 รายการ ประกอบด้วยเสียงสะท้อนและเสียงคอรัส และฟังก์ชันบทเรียนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนสามระดับที่มาพร้อมเพลงพรีเซ็ตตามระดับประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ฟังก์ชัน Song Master สำหรับเน้นการฝึกแต่ละท่อนเพลง และฟังก์ชันสำหรับฝึกฝนไทม์มิ่งและการสัมผัส

  • PSR-E383

PSR-E383

รุ่นระดับเริ่มต้น (PSR-E283) ที่เปิดตัวพร้อมกันมีบทเรียนแบบเต็มหลักสูตรพร้อมเกมการตอบคำถามที่จะทำให้การเรียนสนุกขึ้น จุดที่แตกต่างข้อเดียวที่เห็นได้ชัดระหว่างรุ่นนี้กับรุ่น PSR-E383 คือรุ่น PSR-E283 จะไม่มีฟังก์ชัน Touch Response ซึ่งนี่เป็นความตั้งใจของ Yamaha เราได้เรียนรู้จากผู้ใช้จริงว่าเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มคนวัยอื่นๆ ที่มีความแข็งแรงของนิ้วน้อยจะสามารถกดแป้นคีย์ที่ไม่ไวต่อความหนักหรือเบาของการกดแป้นคีย์ได้ง่ายกว่า

PSR-E473 เป็นรุ่นสำหรับการแสดงที่ทรงพลังเนื่องจากสามารถถ่ายทอดอารมณ์ทางดนตรีขั้นสูงได้ เหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการคุณภาพและความแปลกใหม่ และต้องการเล่นต่อหน้าผู้ชม คุณสมบัติของรุ่นนี้ประกอบด้วยฟังก์ชันต่างๆ สำหรับสร้างเสียงที่แปลกใหม่ และสามารถเปลี่ยนเสียงได้เพียงแค่กดปุ่ม และนี่ยังเป็นคีย์บอร์ดรุ่นแรกในซีรีส์ที่มีไมโครโฟนสำหรับให้ผู้เล่นร้องและเล่นไปพร้อมกัน และบันทึกตัวอย่างเสียงได้

Yamaha ได้พัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์คีย์บอร์ดแบบพกพาด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การเรียนของเด็ก ไปจนถึงการเล่นเป็นงานอดิเรก หรือใช้ในการผลิตงานเพลงของผู้ใหญ่ และเมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ได้รับการพัฒนาให้มีรูปแบบการเล่นที่สนุกมากกว่าเดิมด้วยการเชื่อมต่อ USB และแอปเพิ่มเติม เพื่อบันทึกเสียงและภาพของผู้เล่นเป็นเพลงโปรด รวมถึงเล่นและแชร์ผลงานสุดสร้างสรรค์ของพวกเขาโดยใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ

การสร้างโอกาสในการเข้าถึงดนตรีของ Yamaha: การทำงานเบื้องหลังความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของคีย์บอร์ด Yamaha

ความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ Yamaha ในการสนับสนุนดนตรีคือสาเหตุที่ทำให้ตลาดคีย์บอร์ดแบบพกพาของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว Yamaha Music School และโปรแกรมการศึกษาดนตรีอื่นๆ ได้ทำให้จำนวนผู้เล่นดนตรีในกว่า 40 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกเพิ่มขึ้น การเติบโตนี้ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะจำนวนผู้เล่นบางส่วนมีความคุ้นเคยกับวิธีการเล่นคีย์บอร์ดอยู่แล้ว

Music School teaching materials and the Junior Original Concert

สื่อการเรียนรู้ของ Music School และ Junior Original Concert

ประเทศกำลังพัฒนาหลายๆ ประเทศไม่ได้มีศักยภาพในการส่งเสริมการศึกษาดนตรี และภาวะขาดแคลนครูผู้สอน อุปกรณ์ รวมถึงการขาดหลักสูตรการสอนทำให้ผู้คนมีโอกาสสัมผัสกับเครื่องดนตรีน้อยมาก เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Yamaha จึงได้เปิดตัว School Project ในปี 2015 เพื่อสนับสนุนคลาสเรียนดนตรีในโรงเรียนรัฐบาลด้วยการสนับสนุนการฝึกอบรมครูและการสร้างหลักสูตรการศึกษา รวมถึงการจำหน่ายและจัดหาเครื่องดนตรีและสื่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีโปรแกรมคีย์บอร์ดแบบพกพาที่พร้อมใช้งาน ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และอินเดีย

หนึ่งในรุ่นที่ใช้ในโปรแกรมเหล่านี้คือ PSR-F ซีรีส์ ซึ่งมีฟังก์ชันพื้นฐานที่ไม่ซับซ้อนและมีแผงควบคุมที่ใช้งานง่าย โดยได้รับการออกแบบมาให้ทุกคนสามารถใช้งานและเล่นง่าย Yamaha ได้พัฒนาโหมด Duo ขึ้นจากสมมติฐานที่ว่านักเรียนสองคนจะนั่งที่คีย์บอร์ดแต่ละเครื่อง โหมดนี้จะทำให้คนสองคนสามารถเล่นพร้อมกันได้ด้วยการกำหนดช่วงของโน้ตเดียวกันไว้ที่ด้านขวาและซ้ายของคีย์บอร์ด และเตรียมสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกัน

แม้ว่ารุ่นมาตรฐานที่ใช้ในโปรแกรมจะมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ PSR-E300 แต่ครูผู้สอนจะใช้เครื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ PSR-E400 ที่มีฟังก์ชันการเล่นหน่วยความจำ USB ที่ใช้ข้อมูล MIDI ในหลายกรณี ครูผู้สอนในประเทศกำลังพัฒนาไม่สามารถเล่นคีย์บอร์ดเองได้ พวกเขาจึงเลือกใช้งานกลุ่มผลิตภัณฑ์ PSR-E400 ที่มีฟังก์ชันการเล่นเพลงจากหน่วยความจำ USB และมีราคาไม่แพง

การเล่นดนตรีเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลายและลึกซึ้งยิ่งขึ้นและเป็นอีกหนึ่งวิธีการการค้นหาศักยภาพของตัวเอง นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบและการทำงานร่วมกันจากการเล่นกับคนอื่นๆ นี่คือพลังของดนตรี และ Yamaha ยังคงขยายโครงการ School Project อย่างต่อเนื่องเพื่อแบ่งปันกับผู้คนทั่วโลกมากขึ้น

  • A keyboard festival held in Malaysia

เทศกาลคีย์บอร์ดที่จัดขึ้นในประเทศมาเลเซีย

การค้นหาวิธีใหม่ๆ ที่จะเข้าถึงการเล่นคีย์บอร์ด

ผู้คนส่วนใหญ่ทราบดีถึงความหลงใหลที่นักดนตรียังคงมีต่อเครื่องสาย Stradivarius ที่ผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 17 และ 18 เครื่องดนตรีอะคูสติกจะให้ความรู้สึกลึกซึ้งยิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปแม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานนั้นจะยังคงเดิม นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เครื่องดนตรีอะคูสติกยังคงมีเสน่ห์ดึงดูด

ในทางกลับกัน เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการออกแบบมาให้มีการพัฒนาไปตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและเทรนด์ที่เปลี่ยนไป เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของผู้คนที่ต้องการเพลิดเพลินกับดนตรีในหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยเครื่องดนตรีเหล่านี้ควรให้ประสบการณ์ทางดนตรีที่มากกว่าการเรียนรู้ที่จะเล่นและแสดง นั่นคือประสบการณ์การร้อง การฟัง การสร้างสรรค์ และการแบ่งปัน

เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายเหล่านี้ Yamaha จึงได้นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบ ได้แก่ PSS ซีรีส์ ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดใหม่รุ่นที่มีคีย์ขนาดเล็กรุ่นแรกนับตั้งแต่เปิดตัว PSS-15 เมื่อเกือบสองทศวรรษก่อน และ EZ ซีรีส์, F ซีรีส์, E ซีรีส์, EW ซีรีส์ และอื่นๆ อีกมากมาย บริษัทแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นรากฐานให้กับยุคสมัยที่ดนตรีสามารถเข้าถึงได้และเพลิดเพลินได้อย่างอิสระมากขึ้น

ด้วยภารกิจการขยายฐานผู้เล่นดนตรีจากประเทศที่พัฒนาแล้วไปสู่ประเทศกำลังพัฒนา Yamaha จึงจะทำหน้าที่เป็นประตูสู่โลกแห่งคีย์บอร์ดต่อไป เพื่อมอบโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนสนุกเพลิดเพลินไปกับดนตรี

  • EZ-310
  • PSR-E383
  • PSR-E283
  • PSR-EW320
  • PSR-E473
  • PSR-EW425
  • YPT-W320
  • YPT-380
  • YPT-280
  • PSR-F52
  • PSS-A50
  • PSS-E30
  • PSS-F30
  • SHS-500
  • SHS-300