เมื่อพิจารณาถึงสุขภาพการได้ยิน

ความสุขของเราที่เกี่ยวข้องกับดนตรีมีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงด้วยหูฟังแบบเอียร์บัดและเฮดโฟน ไปดูคอนเสิร์ตการแสดงสด และเล่นเครื่องดนตรี แต่เรามักไม่ใส่ใจต่อหูของเราซึ่งทำหน้าที่รับเสียงเพลง และไม่คำนึงถึงบทบาทสำคัญของหู หากคุณถูกดึงดูดเข้าไปในเพลงของคุณ มีแนวโน้มที่คุณจะฟังเพลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานที่ระดับเสียงดัง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนและหูฟังเอียร์บัดแบบไร้สายทำให้คุณสนุกกับการฟังเพลงได้ง่าย ทำให้คุณอาจตกอยู่ในสภาพแวดล้อมการฟังที่เป็นอันตรายโดยไม่ทันตระหนักถึงภัยร้ายนี้ คุณอาจสงสัยว่าจะได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากเพลงของคุณและเพลิดเพลินกับเสียงคุณภาพสูงตลอดไปได้อย่างไรโดยที่ไม่หยุดฟังเลยหรือไม่เร่งเสียงให้ดังขึ้น

Yamaha มีความเกี่ยวข้องกับเสียงและดนตรีอย่างลึกซึ้ง และฉันหวังว่าจะมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมที่ให้ทั้งความสมดุลระหว่างประสบการณ์การฟังเพลงและการปกป้องการได้ยิน รวมถึงให้คำเสนอแนะที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์การฟังในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยด้วย

การสูญเสียการได้ยินหรือหูอื้อซึ่งเกิดจากการได้ยินเสียงดังเรียกว่าความบกพร่องทางการได้ยินทางเสียง (ภาวะประสาทหูเสื่อมจากเสียง) ซึ่งในอดีต มักจะเกิดเหตุการณ์นี้กับผู้คนที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมากกว่า อย่างไรก็ตาม ภาวะการสูญเสียการได้ยินและหูอื้อที่เกิดจากรับฟังเสียงดังผ่านหูฟังแบบเอียร์บัดหรือเฮดโฟนเป็นเวลานานได้กลายเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากการนำอุปกรณ์เสียงพกพาและสมาร์ทโฟนมาใช้อย่างรวดเร็ว โดยทั่วไป ความเสี่ยงต่อภาวะการสูญเสียการได้ยินจะเกิดขึ้นเมื่อรับฟังเสียงดังที่ระดับ 80 dB (เดซิเบล) หรือสูงกว่านั้นเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นระดับเสียงของการขับเคลื่อนรถยนต์ ต้องระมัดระวังในการใช้งานหูฟังแบบเอียร์บัดและแบบเฮดโฟนที่ให้เสียงเข้าสู่หูของคุณได้โดยตรงมากขึ้น

เสียง (การสั่นสะเทือนของอากาศ) ที่เข้าสู่หูจะถูกแปลงจากการสั่นสะเทือนไปเป็นสัญญาณไฟฟ้าโดยเซลล์ขนในคอเคลียซึ่งเป็นอวัยวะภายในหูชั้นใน และส่งผ่านไปยังสมอง เซลล์ขนเหล่านี้มีความบอบบางมากและจะค่อยๆ เสียหายและลดจำนวนลงเมื่อรับฟังเสียงดังเป็นเวลานาน เซลล์ขนจะไม่เกิดขึ้นใหม่เมื่อถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้น ภาวะการสูญเสียการได้ยินหรือหูอื้อจึงไม่สามารถรักษาได้ตามระยะเวลาที่สังเกตเห็นอาการ

เพื่อป้องกันการสูญเสียการได้ยินจากการใส่หูฟังแบบเอียร์บัด องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำว่า “ห้ามปรับระดับเสียงดัง”, “ห้ามรับฟังต่อเนื่องเป็นเวลานาน”, “หยุดพักการฟัง” และ “จำกัดระยะเวลาที่ใช้หูฟังแบบเอียร์บัดต่อวัน” นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ “ใช้หูฟังแบบเอียร์บัดหรือเฮดโฟนที่มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติ” เพื่อให้ได้ยินชัดขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มระดับเสียงในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวน

เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยิน เราจึงมีความคาดหวังสูงว่า Yamaha ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องดนตรีและผลิตภัณฑ์ระบบเสียงมาหลายยุค จะยังคงผลิตหูฟังแบบเอียร์บัด แบบเฮดโฟน และผลิตภัณฑ์ระบบเสียงอื่นๆ อย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการได้ยิน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับเพลงและเสียงได้ตลอดไป