- หน้าหลัก
- เกี่ยวกับเรา
- คำมั่นสัญญาของแบรนด์ “สร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ”
- WAY UP
- WAY UP HOUSE 2024
WAY UP HOUSE 2024
WAY UP HOUSE 2024
ซีรีส์สารคดีติดตามการเดินทางของศิลปินหน้าใหม่ 8 คนและโปรดิวเซอร์จากทั่วโลกที่มารวมตัวกันเพื่อสัมผัสประสบการณ์การแต่งเพลงสุดพิเศษในประเทศโปรตุเกส โดยพวกเขาอาศัยอยู่ในวิลล่าที่เต็มไปด้วยเครื่องดนตรีและโฮมสตูดิโอ และทำภารกิจร่วมมือ คือการสร้างสรรค์เพลงและทำการแสดงสด
ตอนที่ 1: เขียนเนื้อร้องและแต่งทำนอง
ศิลปินหน้าใหม่ทั้ง 8 คนและโปรดิวเซอร์ มาถึงที่ WAY UP House ในโปรตุเกส พวกเขาต้องจับกลุ่มกันเป็นทีมและทำภารกิจในการสร้างสรรค์บทเพลงภายในระยะเวลา 3 วัน แล้วทำการแสดงในคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นแบบอบอุ่นเป็นกันเอง สารคดีตอนแรกนี้จะเผยให้เห็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสุดสร้างสรรค์นี้ ตั้งแต่การทำความรู้จักกันของศิลปินแต่ละคน ไปจนถึงการเขียนเนื้อร้องและแต่งทำนอง
ตอนที่ 2: การทำงานร่วมกัน
วันที่สองใน WAY UP House ศิลปินจะต้องทำงานร่วมกับสมาชิกในทีมเพื่อสร้างสรรค์งานเพลง การทำงานร่วมกันของศิลปินแต่ละคนจะเป็นการสร้างเครือข่าย ความเข้าใจ และโอกาสใหม่ๆ
ตอนที่ 3: การบันทึกเสียงในสตูดิโอ
ศิลปินทุกคนจะมีโอกาสได้ทดลองแสดงกับแทร็กเพลงของตัวเองในโฮมสตูดิโอประจำวิลล่า โปรดิวเซอร์ Swindle จะให้การช่วยเหลือพวกเขาในการปรับแต่งเลเยอร์ในเพลงและมองหาเครื่องดนตรีใหม่ๆ
ตอนที่ 4: การแสดงจริง
สำหรับวันสุดท้าย ศิลปินของเราพร้อมทำการแสดงบทเพลงที่พวกเขาได้ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้น โดยแต่ละคนจะได้แสดงและรับชมผลงานของพวกเขาผ่านการแสดงคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นแบบอบอุ่นเป็นกันเองนี้
anaiis
anaiis นักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ชาวฝรั่งเศส-เซเนกัลเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตาและมาแรงในวงการดนตรี แฟชั่น และศิลปะ ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนเป็นหลัก แต่ก่อนหน้านี้เธอได้ใช้เวลาเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายและค้นหาแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่และสไตล์ที่ท้าทายให้กับผลงานศิลปะที่เธอทุ่มเท
หลังจากปล่อย EP ‘Before Zero’ และโปรเจ็กต์ ‘Darkness At Play’ ของเธอแล้ว anaiis ได้ยกระดับมาตรฐานไปอีกขั้นด้วยอัลบั้มเปิดตัวชุด ‘This Is No Longer A Dream’ ซึ่งบอกเล่าถึงการบรรเทาจิตใจด้วยการแสดงอารมณ์ที่รุนแรงและกล้าหาญ ในปี 2021 อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ที่มีชื่อเสียงและสื่อต่างๆ โดยเธอเป็นหนึ่งในผู้มีชื่อเสียงที่ได้ขึ้นปกแมกกาซีน PUSS PUSS และ FACT โดยเธอได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีน้ำเสียงที่เร้าอารมณ์และแปลกใหม่ที่สุดในแนวเพลง R&B ร่วมสมัย นอกจากจะได้รับการยกย่องโดยนักวิจารณ์แล้ว anaiis ยังได้เป็นแขกรับเชิญพิเศษให้กับการแสดงสดในงานคอนเสิร์ตของคนดังมากมายอย่าง Erykah Badu, Ibeyi, Daniel Caesar, Nick Hakim และอื่นๆ รวมทั้งเป็นศิลปินเปิดการแสดงสดในดาการ์และเบอร์ลินด้วย ซึ่งกวาดคำชมไปอย่างล้นหลาม
และจากความสามารถที่โดดเด่นของเธอทั้งในด้านดนตรี แฟชั่น และศิลปะชั้นสูง ทำให้ anaiis ได้มีโอกาสร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะที่น่าจับตากับ V&A, Camden Arts Centre, Palais De Tokyo, White Cube, Julien Creuzet, JulianKnxx และอื่นๆ ในส่วนของแฟชั่น เธอได้เข้าร่วมในแคมเปญของ Paul Smith ที่คอลแลปกับ Valentino สำหรับการแสดง ColorsxStudio ที่น่าทึ่งของเธอ เธอเคยสวมใส่ชุดของ Alexander McQueen สำหรับขึ้นปก Harpers Bazaar รวมถึงการคอลแลประหว่างแบรนด์ & Other Stories, Dr Martens, Levis, Paco Rabanne’s Millions x Vice x NTS และอีกมากมาย นอกจากนี้ เธอยังได้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานกับ Ib Kamara, Nell Kalonji, Rafael Pavarotti, Campbell Addy และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งในโปรเจ็กต์ของเธอและคนอื่นๆ
หลังจากบัตรชมการแสดง Headline Show ที่ Barbican’s Milton Court ได้ถูกขายจนหมดในเดือนกันยายน ปี 2023 และปล่อย Deluxe edition ของอัลบั้มเปิดตัว LP ‘this is no longer a dream’ ในเดือนธันวาคม 2023 ซึ่งเป็นการรีมิกซ์และคอลแลปกับ Olly Alexander (Years & Years), Jamilah Barry, Karen Nyame KG และอีกมากมาย เธอก็วางแผนที่จะปล่อยเพลงใหม่และขึ้นแสดงโชว์บนเวทีทั่วโลกในปี 2024 และมุ่งมั่นที่จะสร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรมต่อไป
Emmy Meli
ชื่อของ Emmy Meli ได้กลายเป็นไวรัล หลังปล่อยเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรักตัวเอง “I AM WOMAN” เมื่อปลายปี 2021 จากแผ่นกระดาษโน้ตที่เธอติดไว้เตือนใจในห้องน้ำของเธอเอง สู่ซิงเกิ้ลเพลงที่เป็นการปลุกพลังในตัวผู้หญิง แทร็กที่โด่งดังนี้มียอดสตรีมกว่า 300 ล้านครั้ง และเคยได้รับเลือกให้เป็นเพลงธีมสำหรับพอดแคสต์ของ Megan Markle “Archetypes” ซึ่งเป็นการซิงค์พอดแคสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
เนื้อหาในเพลง Hello Stranger ซึ่งเป็นผลงานใหม่ของ Emmy ได้เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ให้กับอาชีพของเธอ นั่นก็คือทำให้เธอเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะนักแต่งเพลง นักดนตรีอาชีพ และเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ตั้งแต่ปล่อยเพลงออกมา เธอได้มีโอกาสทำการแสดงที่งานเทศกาลดนตรี Lollapalooza และ Firefly Music Festival ในปี 2022 และได้เป็นคนเปิดโชว์ให้กับ Fletcher และ Hayley Kiyoko งานเพลงของเธอได้ปรากฏอยู่ในแคมเปญโฆษณาของ Intimissimi, Triumph UK, Savage Fenty ไปจนถึง Disney+ ชีวิตของ Emmy ผูกพันและเกี่ยวข้องกับดนตรีมาตลอดมานานแล้ว เพราะพ่อและย่าของเธอนั้นเล่นดนตรีได้ทั้งคู่ แต่ทั้งสองไม่เคยมีโอกาสได้ทำตามความฝันมาก่อน “ฉันกำลังทำให้ความฝันของครอบครัวเป็นจริง” Emmy กล่าว “ดนตรีอยู่ในสายเลือดของเราและฉันรู้สึกภูมิใจมากที่ฉันทำให้ฝันเป็นจริงได้สำเร็จ ฉันรู้สึกว่ามันเป็นความสำเร็จของเราทุกคน ฉันรู้สึกยอดเยี่ยมมากที่ได้ทำตามความฝัน และยังได้ทำให้ครอบครัวของฉันภูมิใจ”
อย่าพลาดการรับชมเกี่ยวกับนักดนตรีแนวป๊อป R&B ที่ WAY UP House Portugal
Joel Culpepper
Joel Culpepper เกิดในเพคแฮม ก่อนที่จะย้ายไปยังแคทฟอร์ดทางตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอน การค้นพบตัวเองในเส้นทางสายดนตรีของเขาเริ่มต้นจากการเป็นแฟนเพลงมาก่อน เขาได้รับการบ่มเพาะจากการเสพผลงานของศิลปินระดับตำนานตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเริ่มจากการดูศิลปินระดับแนวหน้าเนื่องจากแม่ของเขาหลงใหลความรู้สึกที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของ Teddy Pendergrass บนเครื่องเล่นแผ่นเสียง และจากการเข้าโบสถ์ในยุคที่เพลงกอสเปลอันเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของ Kirk Franklin และ Fred Hammond กำลังรุ่งเรือง สำหรับ Joel แล้ว การเข้าถึงดนตรีที่แท้จริงของเขามาจากการค้นพบแนวเพลงสไตล์ Prince และ Neo-Soul ซึ่งเป็นการผสมผสานกันที่ช่วยหล่อหลอมให้เขาสามารถจับจังหวะเสียงสูงต่ำและจังหวะที่สวิงไปมาได้เป็นอย่างดี
Joel มียอดเข้าชม 15 ล้านครั้ง รวมถึงมีผลงานการแสดง COLORS ในเพลง ‘Woman’ ที่อยู่ใน EP ‘Tortoise’ ปี 2017 ของเขา ด้วยไสตล์ที่สนุกสนานและความมุ่งมั่นทุ่มเทของเขาในอัลบั้มเปิดตัว ‘Sgt Culpepper’ ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างสูงในปี 2021 ทำให้ Joel ได้รับความสนใจจาก Later… กับ Jools Holland ให้ทำการแสดงสดเพลงเปิดตัว ‘Tears of A Crown’ ที่ Abbey Road Studios
การกลับมาของเขาใน EP ‘Happiness Is Only A Few Miles Away’ ซึ่งเป็นเครื่องตอกย้ำว่าเหตุใด Joel จึงมีชื่อเสียงในฐานะของศิลปินรุ่นแรกๆ ที่มากับน้ำเสียงสไตล์ neo-soul อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ต่อมาเขาได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ ชื่อว่า ‘Free’ ที่ฟีเจอริ่งกับ Tom Misch (ซึ่งเป็นผู้ทำเพลงใน EP นี้ด้วย)
รับชมการนำอิทธิพลของดนตรีหลากหลายสไตล์ที่ Joel ได้ค้นพบมาสู่ WAY UP House Portugal ร่วมกับสไตล์ที่เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ anaiis
Parthenope
Parthenope เป็นนักแซกโซโฟนและนักร้องวัย 22 ปี จากเมืองลีดส์ เธอได้นำเอาการอิมโพรไวซ์ที่ละเอียดอ่อนและการประสานเสียงสไตล์แจ๊สมาผสมผสานกับเพลงที่สามารถเต้นได้โดยมีเมโลดี้สไตล์ป๊อปที่ติดหูและสดใส และเนื้อหาที่ชวนให้ขบคิด เธอมีฐานแฟนคลับจำนวนมากบนสื่อสังคมออนไลน์ และผ่านประสบการณ์การแสดงสดดนตรีแจ๊สที่ลอนดอนมามากมาย
การเปิดตัวของ Parthenope ที่ทุกคนเฝ้าตั้งตารอได้ถูกปล่อยออกมาเป็นส่วนหนึ่งในอัลบั้มรวมเพลง ‘Bluenote Reimagined Vol.2’ ซึ่งเป็นการรวม ‘ศิลปินแนวแจ๊สที่ดีที่สุดในปัจจุบันของ UK’ ‘Bigger Picture' ซึ่งเป็น EP ที่สองของเธอ มีกำหนดการเผยแพร่ในช่วงฤดูร้อนนี้ Parthenope เป็นหนึ่งในศิลปินที่น่าจับตา
อย่าพลาดการรับชมเกี่ยวกับกระบวนการที่สร้างสรรค์ของเธอและทิวทัศน์ของ WAY UP House Portugal มีอิทธิพลต่อแรงบันดาลใจในเพลงของเธออย่างไร
Charlie Allen
Charlie Allen เป็นมือกีตาร์ที่พักอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน และได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกร่วมกับศิลปินมากมาย อย่าง Tom Misch, WizKid และ Incognito การผสมผสานจังหวะอันหนักแน่นเข้ากับความไพเราะสไตล์แจ๊สและบลูส์ ทำให้ Charlie มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และทำให้เขามีผู้ติดตามในโลกออนไลน์จากประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เขาเรียนรู้ด้วยตนเองและเคยได้ทำงานร่วมกับศิลปินระดับแนวหน้าในลอนดอนมากมาย ปัจจุบัน เขาได้มีโอกาสเขียนเพลงและบันทึกผลงานเปิดตัวในฐานะศิลปินเดี่ยว
อย่าพลาดการรับชมสไตล์ที่ไม่เหมือนใครของเขาและการร่วมทีมกับนักดนตรีคนอื่นๆ ของเขาที่ WAY UP House Portugal
Dayna Fisher
Dayna Fisher มือเบสชาวอังกฤษ เกิดและเติบโตทางตอนใต้ของลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เขาเพียงคลุกคลีอยู่กับดนตรีตั้งแต่เด็กเพราะมีพ่อแม่เป็นนักดนตรี ก่อนที่เขาจะเริ่มตามรอยพ่อและแม่เมื่อเขาอายุ 11 ขวบ เขาเริ่มต้นเส้นทางดนตรีด้วยการเลือกเรียนเบส และมีโอกาสได้เล่นในโบสถ์และเล่นให้กับวง 'IDMC’ ซึ่งเป็นประสานเสียงกอสเปลของพ่อ 14 ปีต่อมา เขาได้กลายเป็นมือเบสที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่งในสหราชอาณาจักร เขาได้ทำงานกับศิลปินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Gary Barlow, Jessie J, Dave, Emeli Sande, Jess Glynne, Joy Crookes, J Hus, Plan B, Samm Henshaw และอื่นๆ อีกมากมาย!
สามารถรับชมตัวอย่างกรู๊ฟอันหนักหน่วงและรูปแบบการเล่นใหม่ๆ ของ Dayna ได้จากเพลง ‘Church’ และ ‘Broke’ ของ Samm Henshaw เพลง ‘Masculine’ ของ J Hus ฟีเจอริ่งกับ Burna Boy และเพลง ‘Feet Don’t Fail Me Now’ ของ Joy Crookes
นอกจากนี้ Dayna ยังมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบกรู๊ฟของ Synth Bass ที่หนักหน่วง ความสามารถของเขาทำให้มีโอกาสได้บันทึกการเล่นเบสในสตูดิโอให้กับศิลปินมากมาย เราตั้งตารอที่จะได้รับชมกรู๊ฟอันหนักแน่นของเขาต่อไป! หากคุณชื่นชอบ Dayna โปรดอย่าพลาดการรับชม!
Rashaan Brown
พบกับ Rashaan Brown นักดนตรีฝีมือดีจากถนนที่เต็มไปด้วยสีสันทางตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอน ความเก่งกาจของเขาในฐานะนักดนตรีที่เล่นได้หลายชนิดไม่เพียงแต่จะดึงดูดผู้ชมได้เท่านั้น แต่ยังทำให้เขาได้รับโอกาสร่วมออกทัวร์กับ Pink Pantheress ศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ตลอดการทำงาน Rashaan ได้ร่วมเวทีและสตูดิโอกับผู้มีความสามารถทางดนตรีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น FLO, Tiana-Major 9, Jamal Woon, Mahalia, Swindle, Joy Crooks, Loyle Carner และ Maverick Sabre เป็นต้น นอกเหนือจากการแสดงดนตรีแล้ว ความเป็นศิลปินของ Rashaan ยังครอบคลุมถึงการโปรดิวเซอร์เพลง การเขียนเนื้อและแต่งทำนอง เรียบเรียงเสียงร้อง และกำกับดนตรี แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านดนตรีอันหลากหลายของเขา
ในปี 2024 Rashaan Brown จะได้ติดตาาม Pink Pantheress ไปทำการแสดง Headline Tour ทั่วยุโรป จะมีผู้คนจำนวนมากขึ้นได้เห็นพรสวรรค์ที่โดดเด่นของเขา การเดินทางยังไม่สิ้นสุดเพียงแค่นั้น เพราะเขายังจะได้ร่วมมือกับ Pink Pantheress เพื่อสนับสนุน Olivia Rodrigo ใน Arena World Tour ที่กำลังจะมาถึงของเธอด้วย นอกจากจะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นแล้ว Rashaan และ Pink Pantheress ยังได้ตกลงที่จะสนับสนุนวงดนตรีระดับตำนานอย่าง Coldplay ในการออกทัวร์ทั่วออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เพื่อสร้างประสบการณ์อันยิ่งใหญ่กับแฟนๆ และถือเป็นก้าวสำคัญในอาชีพการทำงานของ Rashaan Rashaan Brown เป็นชื่อที่สะท้อนความแปลกใหม่และความเป็นเลิศของวงการดนตรีร่วมสมัย
ขณะนี้ เขาได้นำสไตล์ร่วมสมัยและแปลกใหม่นั้นมาสู่ WAY UP House Portugal แล้ว
Martina Barakoska
Martina เป็นมือกลองและนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จในอาชีพของเธออย่างน่าทึ่งภายในระยะเวลาอันสั้น สไตล์การเล่นที่ลุ่มลึกและหนักแน่นแต่เต็มเปี่ยมด้วยพลังและความสนุกสนาน สะท้อนความชื่นชอบดนตรีสมัยใหม่ของเธอและการหลงใหลในความทรงพลังของกลอง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยตัวตนที่ไม่เหมือนใคร คุณภาพ และความมุ่งมั่น
การได้รับรางวัลชนะมือกลองยอดเยี่ยมจากการแข่งขันกลอง "T'k Tak" ขณะมีอายุเพียง 17 ปี ทำให้เธอประสบความสำเร็จในโปรเจ็กต์ดนตรีมากมาย เธอมีบทบาทอยู่ในวงการดนตรีของมาซิโดเนียเหนือ และปัจจุบันได้ออกทัวร์กับ Funk Shui และทำงานร่วมกับศิลปินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Duper, Luboyna, Dragi Ivanov และอีกมากมาย โปรเจ็กต์ต่างๆ ของเธอทำให้เธอได้ออกทัวร์ทั่วยุโรปและบอลข่าน
เธอปล่อยโซโล่อัลบั้มชุดแรก ที่ชื่อว่า “Weird Fishes” ในปี 2021 และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนมีโอกาสได้เล่นในงาน Drum Festival เป็นครั้งแรกที่ Alteisa Drumfest ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองซาโมรา ประเทศสเปน และเธอยังเคยเล่นที่ Prvo Pa Zhensko (Firstborn Girl), Skopje DrumFest และ Prishtina DrumFest ในฐานะศิลปินเดี่ยว ในปี 2022 เธอได้ปล่อยโซโล่อัลบั้มชุดที่สอง ชื่อว่า "Sunrise” และได้เข้าร่วมในเทศกาล “Yamaha Drum Days” ที่ปารีส นอกจากนี้ เธอยังเคยเป็นกรรมการในการประกวด Hit Like A Girl Contest ปี 2022
ในปี 2023 เธอมีรายชื่อเข้าร่วม Berlin Drum Days และเข้าร่วมในซีรีส์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นของ WAY UP House Portugal
Swindle
Swindle เป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตา โปรดิวเซอร์ นักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด และผู้แต่งและเรียบเรียงดนตรีชาวลอนดอนใต้ผู้นี้ใช้เวลากว่า 15 ปี ทุ่มเทให้กับสิ่งที่เขาเรียกว่า “left of centre” สังคมดนตรีของเขาครอบคลุมทั้งแนวเพลงไกรม์ ดั๊บสเตป แจ๊ส โซล และแร็พ โดยเขาได้ช่วยหยิบยกเพลงทั้งหมดจากใต้ดินมาสู่การพูดถึงในสื่อกระแสหลัก จากการได้ร่วมงานกับ Ghetts, Kojey Radical, Celeste, D Double E และ Joel Culpepper
Swindle ได้ปล่อยอัลบั้มเปิดตัวของเขาชื่อว่า Long Live the Jazz เมื่อหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ในช่วงเวลาที่ดนตรีแจ๊สในสหราชอาณาจักรยังไม่ได้รับความนิยมในวงกว้าง Swindle ได้นำไลน์เบสดั๊ปสเตปอันหนักหน่วงมากผสมผสานเข้ากับแตรที่พลิ้วไหวไปมาได้อย่างลงตัว สร้างสีสันของจังหวะอันเร้าใจสำหรับฟลอร์เต้นรำ และการบรรเลงสดเครื่องดนตรีแจ๊ส สไตล์ที่ผสมผสานแนวเพลงต่างๆ เข้าด้วยกันของ Swindle กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Mercury Music Prize ในปี 2022 สำหรับการทำงานในอัลบั้ม Reason to Smile ให้กับ Kojey Radical และแทร็ก “Payback” ของ Ivor Novello ในปี 2023 (รวมถึงการแต่งเพลงธีมอย่างเป็นการให้กับการประกาศรางวัล)
เขาได้ฟีเจอริ่งกับบรรดาศิลปินผิวดำผู้มีพรสวรรค์มากที่สุดในสหราชอาณาจักรในปี 2019 มาแล้วทุกคน ทั้ง D Double E ไปจนถึง Nubya Garcia, Andrew Ashong, Etta Bond และ Kojey Radical โดยมีการผสมผสานอารมณ์เพลงคนละขั้วของแต่ละแนวดนตรีเข้าด้วยกันอย่าง G ฟังก์ แจ๊สฮอร์น จังหวะฮิพฮอพที่โยกได้ New World ในปี 2021 เป็นเหมือน “การเชื่อมโยงฉุกเฉิน” สำหรับผู้ที่ร่วมงานกับ Swindle ในระหว่างช่วงเวลาวิกฤตินั้น เพลงทั้งหมดได้ทำการบันทึกภายในหนึ่งสัปดาห์ที่ Real World Studios เมื่อข้อจำกัดต่างๆ คลี่คลายลง “นั่นเป็นเหมือนช่วงเวลาของการบำบัด” เขากล่าว “ภาวะวิกฤติน้ำแข็งขั้วโลกละลายในปี 2020 เพลงเหล่านั้นช่วยชีวิตผมไว้”
โปรเจ็กต์ของเขาไม่มีเพลงที่มีจังหวะช้าลงอีกต่อไป ในปี 2023 Swindle ได้รับโอกาสทำเพลงทั้งหมดสำหรับซีรีส์ Champion 8 ตอนที่ออนแอร์ทาง Netflix และ BBC ของนักเขียน Candice Carty-Williams “ผมไม่เคยทำอะไรเพียงอย่างเดียว นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมโฟกัสและก้าวไปข้างหน้า” Swindle กล่าว “ผมต้องการแสดงจุดยืนแบบ Left of Centre นั้น” และด้วยอาชีพที่เกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์และทีวีควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนทางดนตรีของเขา ทำให้แม้ว่า Swindle จะเป็นผู้นำเทรนด์ที่น่าจับตา แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่รอให้เขาค้นพบ
- หน้าหลัก
- เกี่ยวกับเรา
- คำมั่นสัญญาของแบรนด์ “สร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ”
- WAY UP
- WAY UP HOUSE 2024