สถาบันดนตรียามาฮ่าจับมือพันธมิตรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

สถาบันดนตรียามาฮ่า จับมือพันธมิตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ปั้นบุคลากรดนตรี เปิดโรงเรียนสอนดนตรี
ณ ศูนย์การค้าเสริมไทยคอมเพล็กซ์


สถาบันดนตรียามาฮ่า (สยามกลการ) ผู้นำดนตรีศึกษารายแรกของเมืองไทย จับมือ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดโรงเรียนสอนดนตรี ณ ศูนย์การค้าเสริมไทยคอมเพล็กซ์ ด้วยเงินลงทุน 10 ล้านบาท เตรียมปั้นบุคลากรดนตรีครั้งใหญ่ โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ เป็นเทรนเนอร์ คัดเลือกนิสิต นักศึกษาคนรุ่นใหม่ เปิดประสบการณ์ดนตรีสร้างรายได้มหาศาล เตรียมพร้อมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2015


คุณประนัปดา พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด มองเห็นความสำคัญในการผลิตบุคลากรด้านดนตรี นับเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาดนตรี ควบคู่ไปกับการพัฒนานิสิต นักศึกษา ที่มีความรู้ความสามารถด้านดนตรี เพื่อเสริมศักยภาพของนิสิตไทยสู่บุคลากรดนตรี มืออาชีพ และก้าวสู่ระดับสากล อีกทั้ง เตรียมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2015 โดยมีความพร้อมในการขยายเครือข่ายร่วมกับพันธมิตรธุรกิจดนตรี คือ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดโรงเรียนสอนดนตรี ณ ศูนย์การค้าเสริมไทยคอมเพล็กซ์ ติดกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยได้รับความร่วมมือคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ในการเป็นเทรนเนอร์ของโรงเรียนในแขนงวิชาต่าง ๆ อาทิ เปียโน กีตาร์คลาสสิค กีตาร์ไฟฟ้า กีตาร์เบส กลองชุด ไวโอลิน และหลักสูตรอื่นๆ ของสถาบัน ตลอดจนพัฒนาหลักสูตรดนตรีในสาขาดนตรีไทย และดนตรีพื้นบ้าน เพื่อเปิดสอนให้กับบุคคลทั่วไป และยังเป็นการผลิตบุคลากรนักดนตรีที่มีความรู้ และมีคุณภาพ ตลอดจนให้ความสำคัญเรื่องอุปกรณ์การเรียนการสอนต้องได้มาตรฐานสากล เพื่อรักษาระดับมาตรฐานทางด้านการเรียนการสอนเอาไว้ให้ดีที่สุดในเมืองไทย ตอบสนองความต้องการของนิสิต นักศึกษา และประชาชนที่สนใจอยากศึกษาดนตรี


อนึ่ง สถาบันฯ นั้นมีจุดแข็ง และศักยภาพที่แข็งแกร่ง ในหลักสูตรการเรียน การสอนที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเมืองไทย คือ หลักสูตร “ยามาฮ่า มิวสิค เวิร์ดวาย เอ็ดดูเคชั่น ซิสเต็ม” มาตรฐานสากลจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ ได้ขยายเครือข่ายธุรกิจโรงเรียนดนตรีสยามกลการ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ครอบคลุมพื้นที่ ในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด จำนวน 89 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 100 แห่งภายในปี 2015 ซึ่งปีนี้จะเปิดอีก 2 สาขา คือ กรุงเทพมหานคร และมหาสารคาม นอกจากนี้ ยังโรงเรียนยามาฮ่า ป๊อปปูลาร์ มิวสิค จำนวนอีก 7 แห่ง เน้นการสอนดนตรีสำหรับวัยรุ่น เป็นหลัก


นอกจากนี้ ทางสถาบันฯ มีการปรับปรุง คิดค้น และพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ เช่น หลักสูตร JMC English Course สำหรับเด็กอายุ 4 ขวบ ที่เน้นการเรียนการสอนควบคู่กับการสอดแทรกความบันเทิง ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากโรงเรียนดนตรีอื่นๆ ในเมืองไทย ที่ไม่เน้นการศึกษาแต่เน้นความบันเทิงเพียงอย่างเดียว


ล่าสุด ประเทศไทย โดย สยามดนตรียามาฮ่า ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพเพื่อจัดการแข่งขันอิเล็คโทนระดับเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEF (Asia Pacific Electone Festival 2013) ในวันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2013 ณ โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์ พิสูจน์ศักยภาพเยาวชนจากหลายชาติรวมทั้งเด็กไทย ที่เรียนดนตรีในหลักสูตร “ยามาฮ่า”