Q & A

คอร์สดนตรีพื้นฐานยอดฮิตสำหรับเด็กเล็ก

A : ทางยามาฮ่ามีหลักสูตรทั้งหมด 7 หลักสูตร

Q : 	อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับคอร์สดนตรียอดฮิตสำหรับเด็กเล็ก?

A : Music Wonderland (ใหม่) มีระยะเวลาเรียน 1 ปี (มี 2 เล่ม) เนื้อหาสนุกสนานและมีระยะเวลาการเรียนมากขึ้น จะทำให้นักเรียนมีความพร้อมมากขึ้นก่อนเข้าสู่หลักสูตร JMC ซึ่งหลักสูตรเก่า(มี 1 เล่ม) และมีระยะเวลาเรียน 6-9 เดือน

A : หลักสูตร Music Wonderland (MW) เป็นหลักสูตรดนตรีขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กเล็ก MW เหมาะสำหรับ เด็กอายุ 2 ปี 10 เดือน - 3 ปี 9 เดือน แต่หลักสูตรอื่น จะเหมาะสำหรับเด็กอายุประมาณ 5 ปี ซึ่งจะมีความพร้อมทางสรีระมากกว่าเด็กวัย 2 ปี ที่จะเน้นให้เด็กมีความสุขและมีทัศนคติที่ดีกับดนตรี Music Wonderland เน้นให้เด็กสนุกกับเสียงดนตรี ฟัง ร้อง เล่น ร่วมกับผู้ปกครองและครูใน ห้องเรียน เตรียมความพร้อมโดยเฉพาะฝึกสมาธิ เตรียมความพร้อมของเด็กเพื่อที่จะเรียนต่อหลักสูตร JMC ต่อไป

A : การเรียนแบบกลุ่ม จะมีการเรียนการสอนที่เน้นให้มีการทำกิจกรรมดนตรีเป็นกลุ่ม ฝึกทักษะการฟัง ร้อง เล่น ซึ่ง รูปแบบการเรียนจะต่างกัน โดยสิ้นเชิงกับการเรียนแบบเดี่ยว

A : การเรียน JSAC เนื้อหาจะเข้มข้นและเน้นเรื่องการแต่งเพลง การเรียน JXC จะเรียนพื้นฐานการดนตรี ที่มีเนื้อหาง่ายกว่า และการเรียน วิชา JSAC จะต้องได้รับการ Audition จากสถาบันดนตรีฯ ก่อนเรียน

A : ควรแนะนำให้ผู้ปกครองและนักเรียนเข้า Trial Lesson ทั้ง Violin และ JSFC ก่อนการตัดสินใจ และหลังจาก Trial Lesson แล้ว ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ ควรให้เป็นผู้ปกครองและนักเรียน เรียนหลักสูตร JSFC เนื่องจากเป็นหลักสูตรพื้นฐานการเรียนดนตรีก่อน เพราะหลักสูตรนี้เด็กจะได้ เรียนการฟัง,การร้อง,การอ่าน และการเขียนตัวโน้ต เมื่อจบหลักสูตร JSFC นักเรียนก็สามารถตัดสินใจได้ว่าชอบการเรียน Violin, Electone หรือ Piano ซึ่งขณะนี้นักเรียนอายุประมาณ 7-8 ขวบก็สามารถเรียนไวโอลินได้

A : นักเรียน 6 ขวบ สามารถเลือกเรียนหลักสูตร JSFC หรือ YESC ได้ทั้งสองแบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของ ผู้เรียนเอง โดย YESC เป็นหลักสูตร Electone ซึ่งเหมาะกับผู้เรียนที่อยากจะเรียนอิเล็กโทนอย่างจริงจัง หรือเพื่อความสนุกสนานโดยจุดประสงค์หลักจะเน้นให้สามารถเรียบเรียงเพลงหรือประพันธ์เพลงได้ในอนาคต ส่วน JSFC จะเป็นหลักสูตรดนตรีขั้นพื้นฐานสำหรับเด็ก 6 ปี หลักสูตรนี้เหมาะกับนักเรียนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกเรียน Piano หรือ Electone เป็นหลักสูตรที่มีเนื้อหาที่เน้น การฟัง ร้อง เล่น ซึ่งหลังจากจบหลักสูตรนี้แล้ว นักเรียนสามารถเลือกเรียนต่อในหลักสูตร YESC, JEC หรือ Pianoforte ได้

A : เล่ม 4-6 ( กรณีเปลี่ยนจากหลักสูตรเดิมและต้องไปขึ้นเป็นหลักสูตรใหม่ในสายวิชาเดียวกัน ควรแนะนำผู้เรียนหลักสูตรเดิมที่จะเปลี่ยนเป็นตำราใหม่ต้องตรงกับระดับการสอบเกรดขั้นต่อไปของผู้เรียนเท่านั้น โดยอาจขอคำปรึกษาจากครูผู้สอนเพื่อประเมินความสามารถของผู้เรียนในชั้นเรียนร่วมกัน)

คอร์สอิเล็กโทน

CEC/ CMC สามารถเปลี่ยนเป็นหลักสูตร JEC หรือ YESC สามารถเทียบตารางดังนี้

คอร์สอิเล็กโทน

A : นักเรียนสามารถเปลี่ยนมาเรียนหลักสูตร Junior Electone Course (JEC) ในเกรดเดียวกับหลักสูตร B ได้แต่ต้องสอบผ่านเกรด 9 ก่อน

A : สามารถเรียนได้ทั้งสองหลักสูตรซึ่งระบบการเรียนอิเล็กโทนของยามาฮ่ามี 2 หลักสูตร คือ หลักสูตร A และหลักสูตร B ซึ่งมีความแตกต่างดังนี้

Q : 	หลังจากที่เรียนจบหนังสือ YESC เล่ม 4 (หลักสูตร A) แต่อยากลองเรียน “Solfege” เป็นการเล่น, ร้องและฟัง ซึ่งสามารถจะเรียนยามาฮ่าอิเล็กโทนคอร์ส (หลักสูตร B ) ด้วยได้หรือไม่?

คอร์สเปียโน

A : ควรให้นักเรียนหลักสูตร Pianoforte 1-3 หรือ Adult Piano ก่อนที่จะเรียน Popular Piano เล่ม 1 เนื่องจาก เนื้อหาหนังสือ Popular Piano นี้จะ ยากเกินไปสำหรับนักเรียนที่เพิ่งเริ่มเรียน หรือสามารถปรึกษากับคุณครูผู้สอนได้

A : ให้ปรึกษาคุณครูที่สอนเพื่อ Test และสามารถเรียนได้เฉพาะหลักสูตร YESC เพราะเป็นหลักสูตรรูปแบบ Performance

A : หลักสูตร Adult Piano เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการเน้นการเล่น สำหรับ Pianoforte จะมีเนื้อหาทางทฤษฎี Keyboard Harmony เน้นการฟังและ ร้อง Solfege มากกว่า Adult Piano ที่เน้นเฉพาะการเล่นเพลง

A : หลักสูตร Pianoforte เป็นหลักสูตรเน้น Classic Style ส่วน Popular Piano เน้นการเล่น Melody บทเพลงร่วมสมัย และการเล่นในรูปแบบคอร์ดคอร์สกีตาร์

A : หลักสูตร Fundamental เป็นหลักสูตรพื้นฐาน สำหรับนักเรียนที่ไม่มีพื้นฐานเลย เนื้อหาหลักสูตรมีหลายสไตล์ให้ เมื่อนักเรียนเรียนจนจบแล้ว คุณครูจะแนะนำไปเรียนสไตล์ที่นักเรียนถนัด เช่น ถ้าสนใจเรียนโน้ตก็ไปเรียนใน Classical Style และถ้าไม่ต้องการเรียนโน้ต ก็มาเรียนต่อเนื่องวิชา Acoustic ซึ่งจะเน้นการตีคอร์ดเป็นส่วนใหญ่ สำหรับนักเรียนอายุ 13 ปีขึ้นไป ควรเรียนวิชา Fundamental ก่อนเพื่อเป็นพื้นฐาน และเมื่อจบจะได้ Grade 10 แต่ถ้า นักเรียนต้องการเรียนวิชา Acoustic เลย โดยไม่เรียนวิชา Fundamental ก็สามารถเรียนได้แต่ต้องผ่านการพิจารณา ของครู ผู้สอนหรือคำแนะนำของโรงเรียนดนตรีฯ ก่อน