ซีรีส์ DHR

ดีไซน์ของตู้สามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของระบบเสียงที่หลากหลาย

ซีรีส์ DHR มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ลำโพงพร้อมตู้ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานเฉพาะ ผลิตภัณฑ์รุ่น DHR10 and DHR12 จะติดตั้งฮอร์น HF แบบหมุนได้และโครงยึดรูปตัว U ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการติดตั้งและใช้งานแบบยึดอยู่ที่กับ ในขณะที่รุ่น DHR12M และ DHR15M มีไดรเวอร์การบีบอัดลำโพงโคแอกเชียลเพื่อการตอบสนองต่อความถี่ที่คมชัดขึ้นและราบรื่นขึ้นสำหรับใช้เป็นลำโพงมอนิเตอร์เวที ผลิตภัณฑ์ในซีรีส์นี้ได้รับการเติมเต็มให้สมบูรณ์ขึ้นด้วย DHR15 ซึ่งมาพร้อมจุดแขวนสำหรับใช้ในการติดตั้งแบบยึดอยู่กับที่ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์รุ่น DHR12 และ DHR15 ยังมาพร้อมซ็อกเก็ตเสาแบบปรับได้สองมุมสำหรับใช้ในการติดตั้งแบบยึดอยู่กับที่หรือใช้เป็นลำโพงหลักชั่วคราวสำหรับระบบขยายเสียง

  • Yamaha DHR10, DHR12: Rotatable HF Horn & Optional U-bracket (UB-DXRDHR10, UB-DXRDHR12)

DHR10, DHR12: ฮอร์น HF แบบหมุนได้และโครงยึดรูปตัว U ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม (UB-DXRDHR10, UB-DXRDHR12)

  • Yamaha DHR12M, DHR15M: Coaxial Compression Driver

DHR12M, DHR15M: ไดรเวอร์การบีบอัดลำโพงโคแอกเชียล

  • Yamaha DHR15: Rigging points for standard eye bolts

DHR15: จุดแขวนสำหรับอายโบลท์มาตรฐาน

ทรานสดิวเซอร์ที่สามารถออกแบบได้ตามต้องการ

วูฟเฟอร์กำลังขับสูงจะให้เสียงทุ้มที่ทรงพลังและชัดเจนโดยมีอัตราการผิดเพี้ยนน้อยที่สุด ในขณะที่ไดรเวอร์การบีบอัดที่แม่นยำขนาด 1.4 นิ้ว* จะสร้างความถี่ในช่วงเสียงกลางและสูงที่แม่นยำ

* DHR12M และ DHR15M มีไดรเวอร์การบีบอัดลำโพงโคแอกเชียลขนาด 1.75 นิ้ว

  • Yamaha DHR Series: LF & HF transducer (DHR15, DHR10)

ทรานสดิวเซอร์ LF & HF (DHR15, DHR12, DHR10)

  • Yamaha DHR Series: 1.75” coaxial compression driver (DHR15M)

ไดรเวอร์การบีบอัดลำโพงโคแอกเชียลขนาด 1.75 นิ้ว (DHR15M)

ตู้แบบพกพาได้ที่มีความทนทานสูง

Yamaha DHR Series: A Rugged, Highly Portable Cabinet

ซีรีส์ DHR ใช้ตู้ไม้อัดเช่นเดียวกับลำโพง DZR ที่ได้รับการยกย่องของเราเพื่อความทนทานเป็นพิเศษและประสิทธิภาพของเสียงที่ยอดเยี่ยม

การประมวลผลด้วย DSP แบบแม่นยำพิเศษ สำหรับเสียงที่มีความละเอียดสูง

Yamaha DHR Series: Ultra-Precise DSP Processing for High-Definition Sound

ลำโพงฟูลเรนจ์ทุกรุ่นมีฟังก์ชั่น FIR-X tuning™ เอกสิทธิ์เฉพาะของ Yamaha ที่ใช้วงจรกรอง FIR* ที่มีเฟสเป็นแบบเชิงเส้นสำหรับ Crossover Network ฟังก์ชั่น FIR-X tuning™ สามารถปรับความถี่และการตอบสนองต่อเฟสไปพร้อมๆ กับการปรับ Time-Alignment ระหว่างทรานสดิวเซอร์ HF และ LF ได้ ซึ่งจะสร้างการตอบสนองที่นุ่มนวลรอบจุดตัดความถี่เสียง เพิ่มความชัดเจนและมิติของเสียงที่เหนือกว่า Crossover ทั่วไป

ประมวลผลสัญญาณทั้งหมดอย่างแม่นยำด้วยโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูง เพื่อคุณภาพเสียงระดับความละเอียดสูง ลำโพงฟูลเรนจ์ทุกรุ่นใช้ตัวแปลงแยก A/D และ D/A 24 บิท แบบแม่นยำสูง ซึ่งมีอัตราส่วน S/N และช่วงไดนามิกที่เหนือกว่า

* Finite impulse response

การควบคุมไดนามิกอัจฉริยะเพื่อความชัดเจนที่สม่ำเสมอในทุกระดับเอาต์พุต

Yamaha DHR Series: Intelligent Dynamic Control for Consistent Clarity at Any Output Level

D-CONTOUR คือคอมเพรสเซอร์อัจฉริยะแบบหลายช่วงความถี่ที่ให้เสียงทรงพลังและสม่ำเสมอตลอดทุกระดับเอาต์พุต การตรวจสอบเอาต์พุตของแถบความถี่ในหลายๆ ช่วงและการคำนวณการปรับ EQ ของแต่ละช่วงให้เหมาะสมอยู่เสมอ ทำให้แม้เป็นเอาต์พุตเสียงสูงสุด ก็สามารถรักษาความคมชัดและเสียงดนตรีได้อย่างยอดเยี่ยม D-CONTOUR ใน DHR ซีรีส์ จะช่วยให้คุณปรับจูนเสียงได้ละเอียดมากขึ้นด้วยการตั้งค่าสองแบบ: โหมด FOH/ MAIN หรือโหมด MONITOR โดยที่ในโหมด FOH/MAIN จะเพิ่มความถี่ต่ำเพื่อชดเชยเสียงย่าน Low End ซึ่งมักจะหายไปเมื่อติดตั้งลำโพงแบบแขวนหรือติดตั้งบนขาตั้ง ส่วนในโหมด MONITOR ถูกออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบให้ใช้กับลำโพงมอนิเตอร์ โดยการควบคุมความถี่ต่ำและปรับแถบความถี่ในช่วงต่างๆ ให้มีความสม่ำเสมอเพื่อให้คุณได้รับความคมชัดในการฟังเสียง โหมดทั้งสองนี้ผ่านการทดสอบฟังเสียงนับครั้งไม่ถ้วนจากวิศวกรเสียงผู้มีความเชี่ยวชาญ จึงมีความสมบูรณ์แบบ กลายเป็นคอมเพรสเซอร์แบบหลายช่วงความถี่ที่ทำงานได้อย่างหลากหลาย ให้เสียงที่สม่ำเสมอ ความผิดเพี้ยนต่ำ ที่ทุกระดับเอาต์พุต

ฟังก์ชั่นการปกป้อง DSP แบบครอบคลุมเพื่อการขับเสียงที่ทรงพลังที่สุด

Yamaha DHR Series: Extensive DSP Protection Functions for Maximum Output

ในระบบเสียงทั่วไปที่ประกอบด้วยลำโพงแบบพาสซีฟ เพาเวอร์แอมป์ และโปรเซสเซอร์สัญญาณ การตั้งค่าแต่ละชิ้นส่วนให้ดีที่สุดนั้นอาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก หนึ่งในข้อดีของลำโพงแบบแอคทีฟก็คือ ทรานสดิวเซอร์และแอมป์นั้นสามารถปรับตั้งจนสมบูรณ์แบบได้ ระหว่างการพัฒนาลำโพงซีรีส์ DZR, DXR mkII, DHR, DBR และ DXS นั้น เราได้ทำการตรวจวัดและทดสอบความทนทานของทรานสดิวเซอร์แต่ละตัว รวมถึงเอาต์พุตแอมป์โดยรวม ผ่านการทดสอบฟังเสียงทั้งภายในและภายนอกอาคารแบบนับครั้งไม่ถ้วน และจากผลการทดสอบนี้เอง เราสามารถตั้งค่า Limiter ที่ดีที่สุดสำหรับลำโพงแต่ละรุ่นโดยใช้การควบคุม DSP ที่มีความแม่นยำ

นอกเหนือจากการควบคุมค่าที่เหมาะสมแล้ว ลำโพงของเรายังใช้ฟังก์ชั่นป้องกันแบบเดียวกันกับที่ใช้ในเพาเวอร์แอมป์ TXn ซีรีส์ ระดับท็อปของเรา ไมโครโปรเซสเซอร์และฟังก์ชั่น DSP ประสิทธิภาพสูงจะติดตามสถานะของภาคจ่ายไฟ เพาเวอร์แอมป์ ทรานสดิวเซอร์ และสัญญาณในขณะนั้นเพื่อให้การป้องกันแต่ละชิ้นส่วนในทุกแง่มุม ด้วยเหตุนี้ ลำโพงเหล่านี้จึงสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังสามารถทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือแม้ในสภาพการใช้งานที่เต็มไปด้วยอุปสรรค

แอมปลิฟายเออร์ Class-D ประสิทธิภาพสูงขนาด 1000 วัตต์

Yamaha DHR Series: High-Efficiency 1000W Class-D Amplifiers

DHR เป็นแอมปลิฟายเออร์คลาส D ประสิทธิภาพสูงที่มีน้ำหนักเบา สามารถผลิตเสียงที่มีกำลังขับถึง 1000 วัตต์* มีระดับค่า SPL อยู่ที่ 131 dB (DHR15) จึงให้เสียงที่มีไดนามิคและคมชัดอย่างน่าทึ่ง

*DHR10 มีกำลังขับ 700 วัตต์

เครื่องผสมสัญญาณเสียงแบบ 2 ช่องสัญญาณในตัวที่ใช้งานง่าย

Yamaha DHR Series: Easy-to-use Onboard 2-Channel Mixer

ลำโพงซีรีส์ DHR มีสองสัญญาณอินพุตสองช่องสัญญาณ ช่องสัญญาณ CH1 จะมีแจ็คเสียบแบบคอมโบซึ่งรองรับทั้ง XLR และ TRS Phone เพื่อรับสัญญาณรับอินพุตได้ทั้งไมโครโฟนและเครื่องดนตรี ช่องสัญญาณ CH2 มีอินพุตให้เลือกสองแบบ ได้แก่แจ็คเสียบแบบคอมโบซึ่งรองรับ XLR หรือ TRS Phone และแจ็คเสียบแบบพิน RCA คู่สำหรับรับอินพุตจากเครื่องเล่น CD หรือแหล่งสัญญาณเครื่องดนตรีระบบสเตอริโออื่นๆ

เครื่องผสมสัญญาณเสียงในตัวทำให้คุณสามารถเลือก CH1+2 MIX เพื่อผสมสัญญาณของช่องสัญญาณ CH1 และ CH2 หรือ CH1 THRU เพื่อส่งต่อสัญญาณจาก CH1 เท่านั้น

ซ็อกเก็ตแบบยึดกับเสาปรับได้สองมุม (DHR15, DHR12)

Yamaha DHR15/DHR12: Dual-Angle Pole Mount Socket

ในบางสถานที่ บางครั้งเสียงเพลงของคุณอาจได้รับผลกระทบจากเพดานที่ต่ำหรือลักษณะอื่นๆ ภายในห้องที่อาจกีดขวางเสียงเพลงที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ จนทำให้ประสบการณ์การรับฟังของผู้ชมลดลงอย่างมาก ซ็อกเก็ตเสาของลำโพง DHR15 และ DHR12 มีตำแหน่งการติดตั้ง 2 แห่งที่มุม 0° หรือ -7° เพื่อใช้ปรับทิศทางของพลังงานเสียงออกจากพื้นผิวที่มีคุณสมบัติสะท้อน และตรงไปยังผู้ฟังของคุณแทน