YH-E700A ยกเลิกการผลิต

แอปพลิเคชั่นควบคุมหูฟังของ Yamaha ให้การควบคุมอยู่ในมือคุณที่มากกว่าแค่เพลง คงประสิทธิภาพที่ดีที่สุดผ่านการอัพเดทในอนาคต แต่นี่คือเพลงของคุณ นี่คือหูฟังที่ออกแบบมาเพื่อคุณ และเป็นเสียงที่คุณควบคุมได้

รองรับการเปิดใช้งาน* ของฟังก์ชั่นการสั่งงานด้วยเสียงต่างๆ เช่น Siri® และ Google Assistant ซึ่งคุณสามารถเปิดใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยปุ่มควบคุมระบบสัมผัส เริ่มจากการทำงานพื้นฐานต่างๆ สำหรับการรับฟังเพลง คุณสามารถขอข้อมูลเพลง ข่าวล่าสุด และสั่งงานง่ายๆ ด้วยเสียงของคุณ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นแฮนด์ฟรีสำหรับการโทร

*โปรดทราบว่าการรองรับการใช้งานจะขึ้นอยู่กับข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อและจะแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค

หูฟังแบบเฮดโฟนที่สามารถพับเก็บได้จะช่วยให้สามารถพกพาได้ง่ายขึ้น เนื่องจากทำให้ขนาดของหูฟังลดลงมากจึงสามารถพกพาไปได้ทุกที่

สามารถใช้ช่องต่อ Line-In ได้แม้ในขณะปิดเครื่อง นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้งานเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติขั้นสูงในขณะเดินทางด้วยเครื่องบินได้

ระยะเวลาในการใช้งาน* : สูงสุด 35 ชั่วโมง

ระยะเวลาในการชาร์จ : ประมาณ 3.5 ชั่วโมง

*เปิดการตัดเสียงรบกวนขั้นสูง

สายไฟแบบ USB (50 ซม. แบบ Type A to C)

สายปลั๊กมินิสเตอริโอขนาด 3.5 มม.

อแดปเตอร์สำหรับความบันเทิงที่มีให้บริการบนเครื่องบิน

กล่องสำหรับพกพา

คุณสมบัติ Listening Care มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับบาลานซ์ของระดับเสียงให้ดีที่สุดตามการตั้งค่าระดับเสียงคงที่ (ไม่เปลี่ยนแปลง) บนอุปกรณ์ของคุณ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่นๆ ก็อาจส่งผลต่อบาลานซ์ของระดับเสียงได้ เช่น ระดับเสียงของเนื้อหาเองเมื่อช่วงไดนามิกและระดับเสียงการบันทึกของเพลงเปลี่ยนแปลง และระดับเสียงรบกวนรอบข้างซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับเสียงบนอุปกรณ์ของคุณ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ ในกรณีที่มีเสียงรบกวนรอบข้างดังมาก คุณสมบัตินี้จะปรับเพิ่มระดับเสียงให้โดยอัตโนมัติ

คุณสมบัติ Listening Care ในรุ่น EP-E70/YH-E700/YH-L700 จะนำข้อมูลใน 5 วินาทีก่อนหน้า มาคำนวณระดับเสียงเฉลี่ยทุก 0.7 มิลลิวินาที และทำการปรับอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ การแก้ไขที่ใช้กับ EQ แบบ 4 แบนด์ จะปรับอัตโนมัติตามระดับเสียงเฉลี่ย ดังนั้น จึงสามารถปรับเสียงอย่างต่อเนื่องด้วยความแม่นยำที่สูงขึ้นมากโดยสอดคล้องกับระดับเสียงของเนื้อหาได้ นอกจากนี้ เพื่อให้เอฟเฟกต์เสียงมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น พารามิเตอร์การแก้ไขจะถูกปรับใช้อย่างช้าๆ เป็นระยะ ประสบการณ์การรับฟังของคุณจะได้รับการปรับตามเพลงและสภาพแวดล้อมที่คุณรับฟังอยู่ นั่นหมายความว่า การปรับแต่งเสียงนี้เป็นการปรับเสียงเพื่อคุณเพียงคนเดียวโดยเฉพาะ

ไม่ว่าคุณจะกำลังเดินทางไปทำงานด้วยรถโดยสารสาธารณะ กำลังโฟกัสอยู่กับการเรียนหรือทำงาน หรือเพียงแค่เพลิดเพลิดกับเพลงโปรดหรือพอดคาสต์ที่ชื่นชอบ เสียงรบกวนภายนอกอาจปิดกั้นสัญญาณเสียง และรบกวนการฟังของคุณหรือทำให้ความสุนทรีย์ในการรับฟังขาดหายไปได้

เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติของ Yamaha จะใช้ไมโครโฟนในตัวในการจับเสียงภายนอกและเพิ่มสัญญาณที่มีเฟสตรงข้ามทางไฟฟ้ากับเสียงเข้ามาเพื่อตัดเสียงรบกวนนี้ ทำให้ผู้ฟังสัมผัสประสบการณ์การรับฟังที่สมบูรณ์มากขึ้น

การรับฟังผ่านหูฟังแบบเฮดโฟนหรือเอียร์โฟนจะช่วยตัดขาดการรบกวนจากโลกภายนอกและพาคุณดื่มด่ำไปกับเพลงหรือเสียงที่คุณเลือก อย่างไรก็ตาม การตัดขาดจากสิ่งรอบข้างอาจทำให้คุณไม่ได้ยินเสียงต่างๆ ที่สำคัญได้ เช่น ไซเรนรถพยาบาล, เสียงแตรรถ หรือเสียงประกาศของระบบขนส่งสาธารณะ เสียงประกาศสำคัญดังกล่าวอาจมีความจำเป็นกับคุณ เช่น ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ หรือทำให้คุณไปถึงที่หมายได้ตรงเวลา

ฟังก์ชั่นโหมดเสียงแวดล้อม (Ambient Sound) ของ Yamaha จะใช้ไมโครโฟนในตัวในการจับเสียงภายนอกเหล่านี้และให้เสียงเหล่านี้ประกอบอยู่ด้านหลังในขณะที่คุณรับฟังเพลงหรือระบบเสียงที่เลือก ทำให้คุณยังได้ยินเสียงที่จำเป็นจากรอบข้างอยู่

ขนาดและรูปร่างของศีรษะและหูของมนุษย์มีผลต่อการตีความเสียงที่มาจากหูฟังแบบเฮดโฟนหรือเอียร์โฟนของแต่ละบุคคล

เทคโนโลยี Listening Optimizer (การปรับแต่งเสียงเพื่อคุณภาพในการรับฟัง) ของ Yamaha จะใช้ไมโครโฟนแบบอินเอียร์ในการวัดค่าการกันอากาศเข้าและอากาศรั่วจากหูที่มีรูปทรงต่างๆ ทุก 20 วินาที การเล่นได้รับการปรับแต่งแบบเรียลไทม์เพื่อแก้ไขความต่างของแหล่งสัญญาณเสียงและสภาพแวดล้อมที่คุณรับฟังอยู่ในขณะนั้น โดยเสียงจะได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ฟังแต่ละคน

เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติมีชื่อเสียงในด้านการกำจัดสัญญาณความถี่ต่ำระหว่างการเล่นเพลง เทคโนโลยี ANC ขั้นสูงจะใช้วิธีการใหม่ในการลดเสียงรบกวนรอบข้างโดยไม่ทำการประมวลผลใดๆ กับสัญญาณเพลง

ไมโครโฟนแบบอินเอียร์จะรับสัญญาณเพลงและเสียงรบกวนรวมกัน แล้วแยกการประมวลผลสัญญาณของเสียงรอบข้างและเพลงออกจากกัน ด้วยการแยกสัญญาณทั้งสองออกจากกันในอัลกอริทึมใหม่ที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะ

สัญญาณที่รวบรวมไว้โดยไมโครโฟนภายในจะวิเคราะห์เสียงรบกวน และคำนวณว่าควรกำจัดสิ่งใดออกจากสัญญาณเพลงที่เล่นเพื่อตัดเฉพาะเสียงรบกวนออก ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการประมวลผลสัญญาณเพลงโดยไม่จำเป็นเพื่อคงสัญญาณเพลงที่สมบูรณ์ไว้