MODX+

เสียง

องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของเครื่องดนตรีทุกชนิดคือ เสียง MODX+ จะทำให้องค์ประกอบทั้งหมดของเสียงดนตรีของคุณยอดเยี่ยม

MODX+ ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับที่ใช้ใน MONTAGE รุ่นขายดี: ตัวอย่าง AWM2 (Advanced Wave Memory 2) 128 โน้ต และโพลิโฟนีสังเคราะห์สำหรับเครื่องดนตรีอะคูสติกจำลอง เสียง synth และกลองอันน่าทึ่ง

MODX+ ยังมีโพลีโฟนี FM-X (Frequency Modulation - การกล้ำสัญญาณเชิงความถี่) 128 โน้ต ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสังเคราะห์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี ตั้งโปรแกรมได้สำหรับสร้างสรรค์ดนตรีอิเล็กโทรโมเดิร์นที่มีไดนามิก

AWM2

เอนจิ้น AWM2 เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับซินธิไซเซอร์ของ Yamaha ที่ให้มากกว่าเพียงแค่การเล่นเสียงตัวอย่าง แต่ละ Part ของ16 AWM2 ประกอบด้วย 8 ซินธิไซเซอร์ที่ตั้งโปรแกรมได้พร้อมตัวกรอง 18 แบบ, แอมพลิจูด, พิทช์ และ Filter Envelope Generator (FEG), LFO 9 วงจร, EQ 3 แบนด์ และเอฟเฟกต์ Dual Insert เฉพาะด้วยเทคโนโลยีการจำลองวงจรเสมือนจริง (VCM)

FM-X

ทุกสิ่งที่คุณชื่นชอบเกี่ยวกับ DX7 ที่โดดเด่นได้มาตรฐานนวัตกรรมล่าสุดของ Yamaha FM-X จะสร้างเสียงซินธิไซเซอร์ของยุค 80 ที่คลาสสิก หรือ EDM ที่ล้ำสมัยโดยมีช่วงไดนามิกที่น่าทึ่ง ทรงพลัง และมีความเที่ยงตรง ความสามารถของ MODX+ ล้ำหน้าไปกว่า DX7 รุ่นดั้งเดิมด้วยโครงสร้างของ FM 8 operator, โพลีโฟนี 128 โน้ต, ตัวกรองหลายประเภท และอีกมากมาย ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วย Motion Control เพื่อการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งและเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบเพื่อสร้างเสียงที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน

SMART MORPH

Smart Morph ช่วยให้สามารถเปลี่ยนแปลงระหว่างแต่ละเสียงของ FM-X ได้ อัลกอริทึม A.I. ที่ซับซ้อนจะสร้างแผนที่การเปลี่ยนแปลงเสียงแบบอินเตอร์แอคทีฟจากเสียงของ FM-X สูงสุด 8 เสียง คุณสามารถ “เล่น” แผนที่นี้ได้จากหน้าจอสัมผัสหรือใช้ Super Knob ในการเคลื่อนย้ายระหว่างสองจุด ผลลัพธ์คือจำนวนเสียงใหม่ๆ ที่น่าสนใจและมีการสื่อสารระหว่างกัน

โพลีโฟนีทั้งหมด 256 โน้ต

MODX+ ประกอบด้วยโพลีโฟนีสเตอริโอ AWM2 จำนวน 128 โน้ต และ โพลีโฟนี FM-X จำนวน 128 โน้ต โพลีโฟนีนี้พร้อมใช้งานเสมอไม่มีความหน่วงหรือกระทบต่อคุณสมบัติอื่นๆ เนื่องจากโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของ MODX+ และ MONTAGE

หน่วยความจำแฟลชในตัว

บันทึกเพลงของคุณไว้ในหน่วยความจำแฟลช MODX+ มีหน่วยความจำแฟลชแบบถาวรซึ่งมีความหน่วงต่ำ ขนาดความจุ 1.75 GB ที่มีความเร็วในการอ่าน/เขียนสูงสำหรับจัดเก็บเสียงตัวอย่างที่คุณปรับแต่งเองหรือคลัง Synth

เอ็ฟเฟ็กต์

MODX+ อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรม DSP ด้วยพลังและคุณภาพเสียงที่จะนำเสนอทุกเสียงตั้งแต่เสียงก้องความละเอียดสูงไปจนถึงเอฟเฟกต์ Virtual Circuit Modeling (VCM) ที่ละเอียดอ่อน เพิ่มเสียง EDM ที่มีเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Beat Repeat, Vinyl Break หรือ Bit Crusher ใช้เอฟเฟกต์ Spiralizer ในการสร้างภาพลวงของเสียงที่พิทช์เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างต่อเนื่อง

เพิ่มคอมเพรสเซอร์ที่มี Sidechain สำหรับเอฟเฟกต์ “Ducking” ที่ทันสมัย หรือย้อนยุคด้วยเอฟเฟกต์วินเทจเช่น Analog Delay, VCM Phaser หรือ Amp Simulator ที่หลากหลาย

ผู้เล่นเปียโนจะรู้สึกราวกับอยู่บนสวรรค์ หรืออยู่ในพื้นที่การแสดงที่น่าทึ่งด้วยเอฟเฟกต์ที่เน้นเสียงเปียโน เช่น Damper Resonance และเสียงก้องแบบ HD เพื่อสัมผัสประสบการณ์เสียงเปียโนที่สมจริงที่สุด

อินพุต A/D

อินพุต A/D สเตอริโอช่วยให้คุณสามารถนำแหล่งสัญญาณภายนอก เช่น ซินธิไซเซอร์อนาล็อก เสียงร้อง และเครื่องดนตรีอื่นๆ เข้าสู่ระบบ Motion Control ของ MODX+ ได้ ซึ่งแปลว่าการควบคุมของ MODX+ จะยอดเยี่ยมกว่าการประมวลผลของเอฟเฟกต์ในตัวของรุ่นทั่วไป ควบคุมแต่ละพารามิเตอร์ด้วยตัวคุณเอง หรือใช้ Motion Control ซึ่งเป็นเหมือน “มือที่มองไม่เห็น” ที่มีให้ใน MODX+ เพิ่ม Vocoder, Envelope Follower และ Auto Beat Sync เพื่อให้อินพุต A/D บน MODX+ กลายเป็นเครื่องมือสำหรับตัวเอง

Sidechain

Sidechain เป็นเอฟเฟกต์ยอดนิยมในเพลงแดนซ์สมัยใหม่ที่กำหนดให้แพดหรือส่วนอื่นๆ ที่ทำให้เกิดเสียงค้างยาวถูก “ปรับ” ไปที่กลอง Kick เมื่อเล่นกลอง Kick กลองจะ Duck Down ส่วนที่เล่นเสียงค้างยาวเพื่อสร้างเอฟเฟกต์เป็นจังหวะ “Pumping”

เนื้อหา

นอกจากจะเป็นซินธิไซเซอร์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว MODX+ ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถขยายเนื้อหาได้ เพิ่มเสียงใหม่ๆ ให้กับ MODX+ ของคุณได้ที่นี่

SOUNDMONDO

Soundmondo เป็นเครือข่ายการแบ่งปันเสียงที่ให้คุณจัดเก็บและเรียกใช้ MODX+ และ Performance ของ MONTAGE ได้ และแบ่งปันกับผู้ใช้คนอื่นๆ แต่ละ Performance ที่จัดเก็บไว้สามารถให้คะแนน ตั้งชื่อ และใส่ภาพที่ต้องการจากคลังภาพของคุณได้ แอป Soundmondo สำหรับ iOS ทำให้คุณสามารถอัพโหลดและดาวน์โหลด Performance ใหม่ไปยัง MODX+ โดยตรงด้วยอุปกรณ์ iOS ได้

ความเข้ากันได้

MODX+ จะพาคุณเข้าถึงเสียงต่างๆ ที่สร้างสรรค์โดยนักออกแบบเสียงและศิลปินระดับโลก รวมถึงเสียงจาก MOTIF ซีรีส์ และ DX7 ในตำนาน ซึ่งสามารถนำมาใช้งานได้เลยทันที คุณสามารถเป็นเจ้าของคลังเสียงขนาดใหญ่ได้เพียงปลายนิ้ว

MOTIF XF/MOXF

MODX+ สามารถใช้งานร่วมกับ MOTIF XS/XF Voice และ Performance ได้โดยตรง

DX/TX

เว็บแอปพลิเคชัน FM Converter ฟรีบน YamahaSynth.com ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับเนื้อหาของซินธิไซเซอร์ DX7, DX7II, TX802 และ TX816 ได้เช่นกัน

Bösendorfer

Yamaha มีความยินดีที่จะมอบเสียงเปียโนแกรนด์ระดับพรีเมียมอันน่าทึ่งของ Bösendorfer โดยเจ้าของ MODX+ ทุกคนที่ลงทะเบียนสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัว MODX+ โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติม

DAW Integration

MODX+ Connect เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกที่ช่วยให้คุณสามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ของคุณกับ MODX+ ได้ ข้อมูลเพลงที่สร้างขึ้นบน MODX+ สามารถถ่ายโอนไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ และข้อมูล Performance ที่แก้ไขบน MODX+ สามารถบันทึกเป็นไฟล์ (.X7B) บนคอมพิวเตอร์ได้

MODX+ Connect ที่ใช้เทคโนโลยี VST3 ของ Steinberg จะทำหน้าที่เป็นปลั๊กอิน VST3 กับ Cubase ซีรีส์ MODX+ Connect ยังทำงานเหมือนกับซอฟต์แวร์เครื่องมือ VST อื่นๆ ทำให้คุณสามารถบันทึกการตั้งค่าของ MODX+ ที่มีการแก้ไข หรือใช้การตั้งค่าดังกล่าวกับโปรเจ็กต์อื่นได้

MODX+ Connect ยังทำหน้าที่เป็นปลั๊กอิน AU สำหรับซอฟต์แวร์ DAW ที่รองรับ AU โปรดอ้างอิงจากเอกสารเผยแพร่ที่แยกมาต่างหาก

นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นซอฟต์แวร์แบบสแตนด์อโลน

ช่องเสียบ USB AUDIO INTERFACE แบบหลายช่องสัญญาณ

MODX+ มีอินเตอร์เฟสระบบเสียงแบบ USB หลายช่องสัญญาณคุณภาพระดับมืออาชีพ โดยมีช่องสัญญาณเข้า 4 ช่อง/ออก 10 ช่อง เพื่อตอบโจทย์การผลิตงานเพลงด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย MODX+ เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ยอดเยี่ยมสำหรับสตูดิโอบันทึกเสียงระดับมืออาชีพหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับไลฟ์สด ด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับอินพุต A/D ทั้งสอง

ใช้การเชื่อมต่อด้วยสายสัญญาณเพียงเส้นเดียวแทนอินเตอร์เฟซระบบเสียงภายนอก

เข้ากันได้กับ iOS

RHYTHM PATTERN

มือกลองมาสายอีกแล้วใช่หรือไม่? MODX+ Rhythm Pattern เป็นเหมือนดรัมแมชชีนในตัวที่สามารถเข้าถึงแพทเทิร์นกว่าหนึ่งพันรายการได้อย่างง่ายด้วยปุ่มบนแผงด้านหน้า เพิ่มจังหวะอย่างรวดเร็วเมื่อแต่งเพลง ฝึกซ้อม หรือระหว่างรอมือกลองมาเซ็ทอุปกรณ์ หรือทำการแสดง

การควบคุม

ศิลปินทุกคนต่างต้องการเสียงที่แตกต่าง เพิ่มพลังความคิดสร้างสรรค์ ควบคุมสถานการณ์ และโดดเด่นเหนือใคร นำพาความซับซ้อนของการผลิตเพลงด้วยระบบอัตโนมัติไปสู่การแสดงสดแบบเรียลไทม์ด้วย Motion Control

SUPER KNOB

Super Knob จะทำหน้าที่ปรับและกำหนดทิศทางของเสียงเหมือนกับวาทยกรในวงออร์เคสตรา โดยจะควบคุมแต่ละองค์ประกอบของไดนามิกออกมาเป็นการถ่ายทอดอารมณ์ทางดนตรีได้ Super Knob สามารถบอกให้ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นในขณะที่ให้คนอื่นๆ ลดเสียงลง เช่นเดียวกับวาทยกร คุณสามารถปรับเปลี่ยนโน้ตจากยาวเป็นสั้น สดใสเป็นหม่น หรือเปลี่ยนตำแหน่งผู้เล่นจากที่ติดกับคุณไปด้านหลังของฮอลล์แสดงคอนเสิร์ต

Super Knob ช่วยให้สามารถควบคุมพารามิเตอร์ได้พร้อมกันถึง 128 ค่าใน Performance เดียว ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถควบคุมฟังก์ชันการมิกซ์เสียงต่างๆ เช่น ระดับเสียง การแพน และเอฟเฟกต์ที่จะส่งออก หรือพารามิเตอร์ของ Synth ที่ละเอียด เช่น ตัวกรอง, LFO และ Operator

128 พารามิเตอร์…พร้อมกัน!

นอกจากนั้น คุณยังสามารถควบคุม Super Knob ด้วยแป้นเหยียบควบคุม FC7 ได้ ทำให้ง่ายต่อการควบคุมเสียงขณะที่คุณกำลังเล่นด้วยสองมือ

MOTION SEQUENCES

Motion Sequences เป็นการซิงโครไนซ์จังหวะที่ควบคุมการปรับแต่งซีเควนซ์ได้ทั้งหมด ซึ่งสามารถกำหนดให้ใช้พารามิเตอร์ของซินเธอร์ไซส์เซอร์ใดๆ และทำให้เกิดวิธีใหม่ในการสร้างเสียง

Motion Sequences ยังมีปุ่มควบคุมเฉพาะที่แผงด้านหน้าทำให้ง่ายต่อการจัดการและเปลี่ยนแปลงในแบบเรียลไทม์ ให้การโต้ตอบและการแสดงออกที่น่าทึ่ง

Envelope Follower

Envelope Follower จะแปลงเสียงเป็นแหล่งควบคุมเพื่อควบคุมพารามิเตอร์ของซินเธอร์ไซส์เซอร์ใดๆ แบบเห็นภาพ ตัวอย่างเช่น ดรัมลูปอาจขับเคลื่อนเอฟเฟ็กต์พารามิเตอร์สำหรับจังหวะที่ยอดเยี่ยมหรือการบันทึกเสียงร้องที่สามารถควบคุมพารามิเตอร์หลายตัวสำหรับซินเธอร์ไซส์เซอร์ “ที่พูดได้” เสียงยังสามารถเป็นแหล่ง “ไล้ฟ์สด” ผ่านทางอินพุต A/D

Audio Beat Sync

Audio Beat Sync (ABS) จะตรวจจับจังหวะของอุปกรณ์ภายนอก เช่น ชุดกลองไฟฟ้า ดรัมแมชชีน หรือเครื่องเล่นเสียงที่เชื่อมต่อกับอินพุต A/D และซิงโครไนซ์ MODX+ Arpeggiator, Motion Sequencer หรือเพลงกับจังหวะของอินพุตภายนอก 

เคลือบยาง PB และ MW

MODX+ มีฟังก์ชัน Pitch และ Modulation Wheel เคลือบยางเพื่อให้สัมผัสแห่งความพรีเมียมขณะทำการแสดง เช่นเดียวกับ MONTAGE ซึ่งเป็นรุ่นขายดี

MOBILITY

MODX+ มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และพกพาได้ ออกแบบมาสำหรับให้นักดนตรีสามารถพกพาได้สะดวก

น้ำหนักเบา

MODX6+ มีน้ำหนัก 14.6 ปอนด์ ส่วน MODX7+ มีน้ำหนัก 16.3 ปอนด์ และ MODX8+ แบบ 88 โน้ต ระบบคีย์ Graded Hammer Action มีน้ำหนัก 30.4 ปอนด์

SOFT CASE

กระเป๋าซอฟท์เคสแบบพรีเมียมสำหรับ MODX+ กันกระแทกได้ดี น้ำหนักเบา และมีความสวยงามทันสมัย ซอฟท์เคสสำหรับ MODX+ ไม่ใช่ “กระเป๋าซอฟต์เคสธรรมดา” แต่ได้รับการผลิตจากไนลอนคุณภาพสูงสุด ใช้ซิปคุณภาพสูง มีช่องสำหรับแยกเก็บแป้นเหยียบและสายเชื่อมต่อต่างๆ ภายในมีความหรูหราเพื่อให้การปกป้อง MODX+ ของคุณ และดูดีแม้เวลาจะผ่านไปอีกหลายปี