ภารกิจค้นหาเสียงที่คู่ควรกับสมญานามของเปียโน
เทคโนโลยีใหม่ที่สร้างความเป็นไปได้ให้กับการขยายเสียงเปียโน
![](/th/files/d_01_820x560_fa989fd541a2e76c574bf36f42c0f717.jpg)
ในขณะที่รุ่น CP70 และ CP80 อาศัยการตีสายแบบเดียวกันกับที่นิยมใช้ในแกรนด์เปียโนเป็นพื้นฐานของการผลิตเสียงที่สมจริง เปียโนสองรุ่นนี้ไม่มีซาวด์บอร์ด แต่ใช้พิกอัปแม่เหล็กในการแปลงการสั่นสะเทือนของสายเป็นสัญญาณเสียงแทน ด้วยการแปลงการสั่นสะเทือนของสายให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า ทำให้ CP70 และ CP80 สามารถเปิดรับความเป็นไปได้ของรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งสามารถปรับแต่งเสียงและใช้เอฟเฟ็กต์กับสัญญาณเสียงที่ออกมาได้ เสียงที่ได้ (หรือที่รู้จักกันในนามแกรนด์เปียโนไฟฟ้า) จึงมีบทบาทสำคัญในแวดวงดนตรีที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น และยังคงสร้างความตื่นเต้นให้กับยุคปัจจุบัน
ระบบไฟฟ้าเพื่อเสียงเปียโนที่สมจริงยิ่งกว่าเดิม
![](/th/files/d_02_820x560_561a1093747ec9ea95b0e2e79927942f.jpg)
ในขณะที่ CP30 ใช้โทนเจเนอเรเตอร์แบบอนาล็อกแทนสายและค้อนของอะคูสติกเปียโน วิธีนี้ได้สร้างปัญหาอย่างมากให้กับนักออกแบบในแง่ของการผลิตเสียงเปียโนที่สมจริง ทางแก้ไขปัญหานี้มาในรูปแบบของฟังก์ชั่นใหม่ 2 ฟังก์ชั่น นั่นคือ Velocity ซึ่งช่วยให้ปรับระดับเสียงตามน้ำหนักการกดลิ่มคีย์ได้ และ Decay ซึ่งจะควบคุมการอ่อนลงของเสียงตามระยะเวลา
ขับเคลื่อนโดยแซมพลิงเทคโนโลยี
![](/th/files/d_03_820x560_454a3f5a8b21fa83ec7354ebf8609574.jpg)
เพื่อค้นหาเสียงเปียโนที่ให้ความสมจริงมากกว่าการใช้โทนเจเนอเรเตอร์แบบอนาล็อก นักออกแบบของ Yamaha ได้หันมาให้ความสนใจกับแซมพลิงเทคโนโลยีจนพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยโทนเจเนอเรเตอร์แบบ AWM ที่เต็มไปด้วยแซมเพิลที่บันทึกจากอะคูสติกเปียโนจริงๆ และด้วยแรงบันดาลใจจากแนวทางสู่ความสมจริงที่ใช้ในเปียโนไฟฟ้ารุ่น Clavinova ของเรา โทนเจเนอเรเตอร์ประเภทนี้จึงสูบฉีดสายเลือดใหม่ให้กับสเตจเปียโนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Yamaha PF P-100
เสียงเปียโนสำหรับใช้ในวงดนตรี
![](/th/files/d_05_820x560_4e026d9faa99fb2814837a0fd2ac5d7a.jpg)
เพื่อประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งกว่า นักออกแบบของ Yamaha CP300 จึงเปิดรับความท้าทายของการทำสเตอริโอแซมพลิง นอกจากนี้ นักออกแบบยังผสานคุณลักษณะอื่นๆ เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่สมจริง เช่น การสร้างซ้ำการสั่นสะเทือนที่ส่งกลับไปยังปลายนิ้วของนักเปียโนผ่านลิ่มคีย์ เครื่องดนตรีในซีรีส์ CP แม้ว่าจะออกแบบมาให้เป็นสเตจเปียโน ก็ยังคงให้เสียงที่ดีเยี่ยมเมื่อเล่นในวงดนตรี ด้วยความคิดเช่นนี้เอง รวมถึงด้วยความหวังว่าจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการนำธรรมเนียมการใช้เปียโนในวงดนตรีมาคิดใหม่ นักออกแบบของ CP300 จึงตัดสินใจอย่างห้าวหาญเพื่อใส่เสียงเปียโนแบบโมโนและเสียงเปียโนแบบบีบอัดลงในพรีเซ็ตของเครื่องดนตรีนี้ทุกรุ่น
การหวนคืนของเสียงเปียโนไฟฟ้า
![](/th/files/d_04_820x560_da2fc3bc12fc2d04d518e7af883c7e17.jpg)
การที่เสียงเปียโนไฟฟ้าแบบวินเทจเข้ามาอยู่ในความสนใจอีกครั้งเนื่องจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของแวดวงดนตรี เปียโนรุ่น CP1 ซึ่งเปิดตัวห่างจากสเตจเปียโนหลังแรกของตระกูล CP กว่า 4 ทศวรรษ จึงใช้โทนเจเนอเรเตอร์แบบ Spectral Component Modeling (SCM) ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของเสียงที่โด่งดังนี้ได้
ก้าวสู่อีกขั้นด้วยโทนเสียงแกรนด์เปียโน
![](/th/files/d_06_820x560_d23e8cc53fc9e9b4229bd7c6b690ad54.jpg)
Yamaha มีประวัติอันภาคภูมิในด้านการผลิตเปียโนมายาวนานนับศตวรรษ โดยมี CFX เป็นเพชรยอดมงกุฎแห่งแกรนด์เปียโนของเรา CP4 นั้นอัดแน่นด้วยแซมเพิลอันประณีตที่บันทึกเสียงจากเครื่องดนตรีประเภทนี้อย่างพิถีพิถัน ทำให้เปียโนรุ่นนี้สามารถผลิตเสียงสเตจเปียโนที่อาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง